“ช่วยแม่ผมด้วย” ลูกวิ่งร้องของความช่วยเหลือ ทั้งที่ตัวเองเจ็บหนัก ขับมาเจอกองข้าวตากบนถนน

หลังขี่รถจักรยานยนต์ไปชนกองข้าว ระหว่างถนนสายบ้านหนองมดแดง-บ่อดิน ต.ตาจง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 21 พ.ย. ที่ผ่านมา ทั้งสามถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล ก่อนจะกลับมาพักฟื้นอยู่บ้าน

นายภูตะวัน คนขี่รถจักรยานยนต์ เล่าว่า ตนกับแม่และน้องชาย กลับมาจากขายของตลาด จะกลับบ้าน ซ้อนรถมาด้วยกัน 3 คน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ถนนมืดมองอะไรไม่เห็น ก่อนพุ่งชนกองข้าวอย่างจังหลังจากนั้น ไม่ได้สติ จนกระทั่งมีคนมาช่วยเหลือ

นายธีระพงษ์ จำปาทอง อายุ 24 ปี เจ้าของรถเกี่ยว และเป็นคนช่วยเหลือหลังเกิดเหตุ บอกเล่าว่า ช่วงนั้นตนอยู่ไม่ห่างจากที่เกิดเหตุ เห็นรถกระเด็นขึ้นไป จึงรีบวิ่งมาดู และช่วยเหลือเบื้องต้น เพราะตนพอมีความรู้ด้านนี้อยู่บ้าง แต่ที่น่าสงสาร น้องภูผา อายุ 11 ปี ที่วิ่งมาหาตนเป็นคนแรก ร้องบอกว่า ช่วยแม่ผมด้วย ทั้งที่ตัวเองเจ็บหนักกว่าคนอื่น

ขณะที่ นายประมวล แทนเต อายุ 59 ปี ผู้ใหญ่บ้านสายตรี 16 หมู่ 12 ต.หนองไม้งาม กล่าวว่า ยอมรับว่า ยังเป็นปัญหาที่แก้ไขยาก เพราะเกษตรกรเกี่ยวข้าวพร้อมกันจะขายเป็นข้าวสดก็ไม่ได้ราคา จำเป็นต้องตาก แต่สถานที่ตากไม่เพียงพอ จึงเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว

ด้าน นางยุพา สมประโคน เจ้าของข้าวเปลือก เล่าว่า หลังจากเกี่ยวข้าวด้วยรถเกี่ยว ใส่กระสอบถุงปุ๋ยเอามากองไว้บนถนน เพื่อเตรียมเทข้าวเปลือกออกแล้วตาก แต่เอาไปวางไว้ได้ไม่ถึง 1 ชม.กำลังกลับบ้านเพื่อเตรียมออกมา ปรากฏว่าได้ข่าวจากชาวบ้านว่ามีคนมาชนกองข้าว

นางยุพา บอกด้วยว่า สาเหตุที่เอาข้าวมาตากบริเวณนี้ เพราะเป็นถนนเพิ่งสร้างใหม่ไม่ค่อยมีรถวิ่ง ตนเอามาตากครั้งแรกก็โดนเลย สงสารผู้บาดเจ็บ จึงมาเยี่ยม และเยียวยา ซึ่งช่วยได้เพียงเล็กน้อย หลังจากนี้จะไม่เอาข้าวมาตากบนถนนอีกแล้ว อาจจะเอาขอตากที่อื่น ที่ไม่ใช่ถนน แต่หากไม่มี ก็จำเป็นต้องขายเป็นข้าวสด ถึงแม้จะไม่ได้ราคาก็ตาม