พลเมืองดี เก็บกระเป๋าเงินหมื่น คืน ป้าวัย 60 ปี หลังตามหาเกือบ 2 เดือน

เรื่องราวดีๆในสังคม ถูกเปิดเผยขึ้น ผู้สื่อข่าวสอบถามที่มาที่ไปของกระเป๋าเงินใบนี้ ทราบว่า เมื่อวันที่ 4 ต.ค.67 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ

20.00 น. น.ส.วราวรรน รัดนา พนักงานร้านไชยกมลการฟ้า พบเป๋าใบนึงตกอยู่บริเวณโคนเสาไฟ หน้าธนาคารกรุงไทย สาขากิโล 10

ตนคิดว่าในนั้นน่าจะมีสิ่งของสำคัญและตนไม่ได้เปิดดู ซึ่งไม่รู้ว่าจะตามหาเจ้าของอย่างไร จึงไปฝากไว้กับ นายอนุสรณ์ ไทยญานุสร เจ้าของร้านข้าวขาหมู เพราะเห็นว่าร้านใกล้อยู่กับบริเวณที่กระเป๋าตกอยู่ เจ้าของกระเป๋าอาจจะกลับมาตามหา

โดยเจ้าของร้านข้าวขาหมู รับกระเป๋ามาเก็บไว้ แต่ก็ไร้วี่แวว ของเจ้าของกระเป๋า จึงพูดคุย น.ส.พนารันต์ กล่อมแก้ว เจ้าของร้านข้ามต้มปลาที่อยู่ติดกัน เพื่อเป็นพยาน ในการเปิดประเป๋า พร้อมบันทึกภาพไว้เพื่อเป็นหลักฐาน พบว่าใน กระเป๋าตัง มีเงินสด 12,860บาท และบัตรประชาชน ชื่อ นาง สุรินทร์ ศิลศร อายุ 60 ปี ชาว อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ของเจ้าของกระเป๋า

จึงประสาน แจ้งไปยัง นางสุนทรี จะบัง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 ต.พลูตาหลวง เพื่อตามหาเจ้าของ ซึ่งตรวจจากบัตรประชาชน ไม่พบอยู่ในพื้นที่อำเภอสัตหีบ จึงแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องค้นหาชื่อ จนทราบว่า ว่าอยู่ใน หมู่ 2 ต.พลูตาหลวง ซึ่งมี นายสกล กลั่นแก้ว เป็นผู้ใหญ่บ้าน และช่วยตามหา นางสุรินทร์ อยู่นาน จนเจอเจ้าตัว และติดต่อเพื่อมารับกระเป๋าคืนในที่สุด

โดย นางสุรินทร์ ได้เดินทางมารับกระเป๋าของตนด้วยความดีใจ และร่วมกันนับเงินสดว่าอยู่ครบหรือไม่ โดยมี นายสมประสงค์ วังแก้วหิรัญ ผู้เชี่ยวชาญ ประจำตัว สส.เขต10 ชลบุรี เป็นผู้นับเงิน และเป็นสักขีพยาน ปรากฎว่า เงินยังอยู่ครบทุกบาททุกสตางค์

ซึ่ง สุรินทร์ ศิลศร บอกว่าวันนั้น ตนเองมากดเงิน ผู้สูงอายุและเงินดิจิทัลวอลเล็ตจากรัฐบาล รวม 12,860 บาท ก่อนทำกระเป๋าหายไปตอนไหนที่ไหนตนก็จำไม่ได้ และไปลงบันทึกประจำวันไว้ ไม่คิดเลยว่าจะได้กระเป๋าและเงินกลับคืน ขอขอบคุณทุกคนจากใจจริง