ปลื้มกันทั้งหมู่บ้าน คุณตาหอบเหรียญบาทหยอดใส่บริจาคเงินให้กับ รพ.ชุมพรฯ หวังช่วยสมทบทุนซื้อเตียงคนไข้ กลายเป็นคนดัง เจ้าตัวลั่นตั้งใจจะทำจนกว่าจะสิ้นลมหายใจ
จากกรณีโลกออนไลน์ มีการแชร์ภาพประทับใจ คุณตาวัย 81 ปี หอบเหรียญบาทมาเทกองหน้าตู้เพื่อต้องการบริจาคเงินให้กับโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ เพื่อนำไปซื้อเตียงให้กับคนไข้นั้น
ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นางณัชชา สุขพล เจ้าพนักงานเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ว่าขณะที่กำลังทำงานบริการอยู่ในห้องประชาสัมพันธ์ ก็ได้พบคุณตาท่านหนึ่งเปิดประตูเข้ามา สังเกตในมือของท่านกำลังเหมือนอุ้มอะไรสักอย่างที่มีน้ำหนักไม่น้อย จึงเดินเข้าไปถามว่ามาหาหมอหรือไม่อย่างไร แต่ทางคุณตาปฏิเสธว่าไม่ได้มาหาหมอ แต่จะมาบริจาคเงิน
หลังจากที่ตอบแล้วคุณตาก็นั่งลงกำลังพื้น แล้วเปิดกระเป๋าที่อุ้มมายกคว่ำลงเทเหรียญ ซึ่งเป็นเหรียญ 1 บาท กองลงกับพื้น ซึ่งสร้างความประทับใจให้กับตนเองและประชาชนที่มาใช้บริการที่ รพ.เป็นจำนวนมาก ตนเองเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ จึงได้ขออนุญาตคุณตาถ่ายภาพ ซึ่งคุณตาก็ลุกขึ้นมา พร้อมทั้งควักเงินจากกระเป๋ากางเกงอีก 100 บาท มาโชว์และหย่อนใส่ลงไปในตู้บริจาค
ส่วนเหรียญที่กองอยู่กับพื้นที่ ตนเองพร้อมกับคุณตาและเจ้าหน้าที่ของ รพ.ชุมพรฯ ก็ได้ช่วยกันหยิบไปหยอดใส่ในตู้บริจาคด้วยความอิ่มเอมใจไปด้วยกันทุกคน เพราะไม่คิดว่าคุณตาวัยขนาดนี้ ยังมีน้ำใจเก็บออม วันละ 1-2 บาท เพื่อนำมาบริจาคให้กับ รพ.ชุมพรฯ เพื่อนำไปซื้อเตียงให้กับคนไข้
หลังจากที่หยิบเงินใส่ตู้บริจาคจนหมด และได้พูดคุยกับคุณตา สักพัก คุณตา ได้ขอตัวกลับ ส่วนตนเองก็ได้นำภาพอันประทับใจ โฟสต์ลงในเฟซบุคส่วนตัวและเพจ ของ รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ซึ่งแทบไม่น่าเชื่อมีคนเข้ามาแชร์และคอมเม้นเป็นจำนวนมาก
หลังจากที่ได้รับข้อมูล ผู้สื่อข่าวได้พยายามค้นหาคุณตาคนดังกล่าว จนทราบชื่อคือ นายบุญลาภ เกตุวารี อายุ 81 ปี มีภูมิลำเนาอยู่หมู่ที่ 12 ต.บ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยนายสุรินทร์ ทวยนาค กำนันตำบลบ้านนา นายภานุวัฒน์ สวัสดี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 ต.บ้านนา และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
พบบ้านคุณตา เป็นบ้านสองชั้นครึ่งไม้ครึ่งปูน ปลูกอยู่ในถนนซอย ห่างจากถนนสายท่ามะปริง-วิสัยเหนือ เพียง 100 เมตร อาศัยอยู่กับภรรยาคือนางวรรณี เกตุวารี วัย 76 ปี และลูกชาย อีก 2 คน คือนายกุลมาตย์ อายุ 45 ปี ที่พิการทางสมอง และ นายจีรศักดิ์ อายุ 43 ปี
โดย คุณตาบุญลาภ กล่าวว่า ตนเองนั้นมีความมุ่งมั่นที่จะทำบุญให้มาก และจะทำไปเรื่อย จนกว่าจะสิ้นลมหายใจ เพราะการทำบุญนั้นเป็นการเสริมบารมี เพิ่มความสุขให้กับตนเอง และที่ผ่านมานั้นตนเองก็ทำบุญให้กับทางวัดมาแล้วเป็นเวลาหลายปี แต่ก็ต้องเปลี่ยนช่องทางการทำบุญบ้าง เพราะไปทำบุญให้กับวัด ก็มักจะนำไปสร้างโน้นสร้างนี้ ไปไม่รู้จักจบจักสิ้น
ตนเลยตัดสินใจ นำเงินที่เก็บออมทุกวัน วันละบาทสองบาทที่เก็บมาตลอดทั้งปี ประมาณ 500 กว่าบาท มาบริจาคให้กับทางโรงพยาบาลดีกว่า เพราะต้องการให้นำเงินไปซื้อเตียงให้กับคนไข้ได้นอนพักรักษาตัว
และตนเองตั้งใจแล้วจะเก็บเงินที่ได้ตลอดทั้งปี จะมาบริจาคให้กับโรงพยาบาลเป็นประจำทุกปี เพราะตนเองทำได้เท่านั้น ส่วนคนอื่นที่เห็นจะมีบริจาคเลือด บริจาคอวัยวะ แม้ไม่มาก แต่ก็ถือว่าได้ช่วยทำบุญ
ด้าน นายทวีเกียรติ เกตุวารี อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นลูกชายอีกคนที่แยกครอบครัว แต่อยู่ใกล้กับบ้านพ่อและแม่ กล่าวว่า พ่อเป็นคนใจดี ร่าเริงและพ่อจะใช้ชีวิตอย่างมีระเบียบมาก ไม่ว่าช่วงเช้าจะพาน้องชายที่พิการเดินออกกำลังกาย เป็นระยะทางกว่า 2-3 กม.ไปกลับ และตลอดเส้นทางที่เดินออกกำลังกายพ่อก็ยังเก็บขยะ กลับมาคัดแยกเพื่อขาย และจะนำเงินนั้นสะสมไว้จนครบปี ก็จะนำไปทำบุญ
ที่ผ่านมาตนเองจะรู้เพียงว่าพ่อมักเอาเงินที่เก็บทั้งปี นำไปถวายให้กับทางวัด แต่ไม่คิดว่าครั้งนี้มาบริจาคให้กับโรงพยาบาลชุมพรฯ และเป็นที่ซาบซึ้งใจเป็นอย่างมากให้กับครอบครัว หลังมีกระแสข่าวของภาพประทับใจที่ทางเจ้าหน้าที่ได้โฟสต์เฟซบุ๊กออกไป มีคนชื่นชมพ่อว่าเป็นคุณตาผู้ใจบุญ
ส่วน นายภานุวัฒน์ สวัสดี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 กล่าวว่า เดิมทีคุณตาบุญลาภนั้นเป็นคนจาก อ.หลังสวน จ.ชุมพร ได้ย้ายถิ่นมาสร้างครอบครัวที่ หมู่ที่ 12 ต.บ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร เมื่อกว่า 30 ปีที่ผ่านมา และตลอดระยะเวลาที่อยู่ที่นี่ คุณตาซึ่งก็เป็นญาติของตนเองเช่นกัน เป็นคนดี มีใจโอบอ้อมอารี ชอบทำบุญเป็นอย่างยิ่งไม่ว่าเทศกาลงานอะไร คุณตาจะไปช่วยเต็มกำลังความสามารถ จนเป็นที่เคารพนับถือในหมู่บ้าน
และยิ่งมาครั้งนี้ ได้ทราบข่าวว่า คุณตาได้นำเงินจำนวน 500 กว่าบาท ที่สะสมเหรียญบาทหยอดใส่กระป๋องทุกวัน จนครบปีนำไปบริจาคให้กับทางโรงพยาบาลชุมพร ยิ่งทำให้ตนเองและคนในหมู่บ้านปลื้มปิติยินดีไปด้วย ที่เห็นคนในหมู่บ้านได้สร้างคุณงามความดีจนเป็นภาพประทับใจออกไปสู่สาธารณชน
ในขณะที่ นายสุรินทร์ ทวยนาค กำนันตำบลบ้านนา กล่าวว่า จากที่ได้สัมผัสคุณตาบุญลาภมา ทำให้ตนเองได้เรียนรู้และรู้จักการดำรงชีวิต การครองตนมากขึ้น เพราะคุณตาได้สะสมและได้สั่งสอนให้คนทั่วไปได้เห็นว่าการอยู่อย่างไร ไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น ทำอย่างไรให้อยู่ได้อยากพอเพียง และอยู่อย่างไรที่จะแทนคุณแผ่นดินอาศัย
นายสุรินทร์ กล่าวต่อว่า คุณตาลาภ นั้นมักจะพูดอยู่เสมอว่า คนไทยเราที่อยู่ได้มาถึงทุกวันนี้นั้นก็ด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ปกป้องกอบกู้เอกราช จนมาเป็นแผ่นดินไทยให้เราได้อาศัยอยู่อย่างเป็นสุขได้ทุกวันนี้ ที่บ้านของคุณตาจึงเต็มไปด้วยรูปภาพของพระมหากษัตริย์ไทย ตั้งแต่รัชกาลที่ 1 ไปจนถึงรัชกาลที่ 10
กระทั่งสร้อยที่แขวนคอ คุณตาก็จะนำเหรียญทุกยุคทุกสมัยของทุกรัชกาล มาใส่กรอบขึ้นไว้ที่คออยู่ตลอด โดยคุณตามักจะพูดอยู่ประจำว่า บูชาพ่อหลวงดีกว่าบูชาหลวงพ่ออีกด้วย