ถือว่าเป็นมรสุมลูกใหญ่ในชีวิตของ จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม หลังมีปัญหาหนี้สินประดังประเดเข้ามาเป็นข่าวใหญ่หน้าสื่อ แถมยังมีคนมาคอมเม้นต์ด่าสารพัด
จั๊กกะบุ๋ม บอกว่าไม่รู้ว่าโรคซึมเศร้าคืออะไร แต่ว่าอารมณ์ในช่วงนั้น มันรู้สึกเคว้งคว้าง กินไม่ได้นอนไม่ได้ทุกอย่างมัน ประเดประดังเข้ามาในหัวเราหมดเลย อยู่กับไฟหัวนอนดวงเดียวให้ตัวเองตอบเรื่องราวทั้งหมดที่มันเกิดขึ้นมันคืออะไรแล้วทำไมวันนี้เราโดนมรสุมลูกที่มันใหญ่จังเลย เราจะรับมือกับมันได้ไหม เราจะทำยังไงดี เราจะเดินหน้าต่อไปเราจะทำไงดี ภาษาสมัยนี้เค้าจะเรียกว่าดิ่งใช่ไหม มันดิ่งมันดาว สุดท้ายแล้วสิ่งที่มันเกิดขึ้น ถ้าทุกคนเค้าไม่อยากจะให้โอกาสเรา เค้าเห็นถึงความผิดที่มันเป็นความผิดในมุมมองของเค้า คิดว่าความผิดที่เราทำมันเป็นเรื่องร้ายแรงสุดท้ายเค้าอยากเห็นเราตายหรือเปล่าวะ สุดท้ายเราต้องตายหรือเปล่าคิดไปถึงขนาดนั้นเลย ทุกคนต้องการภาพนั้นหรอ แล้วเราต้องทำแบบนั้นไหม ถ้าสิ่งๆ นี้มันทำให้ทุกคนสบายใจผมยอมนะ ถามว่าอะไรที่ทำให้มาจากความคิดเหล่านั้น มันมีโทรศัพท์สายหนึ่งเข้ามาจากพี่คนหนึ่ง ผมก็ต้องบอกว่าเค้าเป็นคนที่เปลี่ยนชีวิตเหมือนกันขออนุญาตเอ่ยชื่อพี่ญาญ่า พี่บ๋อมแล้วก็พี่บุ๋มทีมงานที่จัดเชิญยิ้มเชิญอร่อย โทรมา ถามว่าทำอะไรอยู่เราก็บอกว่าไม่ไหวแย่มากเลย และแกจะทำยังไงต่อก็หาหนทางเจอ เพราะตอนนั้นผมมีที่ขายของคือที่อยุธยา ขายของข้างหน้าตรงที่เค้ามาไหว้พระ นั่นคือที่ๆ เดียว ที่ตอนนั้นผมมีรายได้อยู่ สมมุติว่าก็คุยกันไปกันมาถ้าฉันจะเปิดโอกาสให้แกมาขายในงานนี้แกจะมาไหม ผมไม่ปฏิเสธเลยผมบอกผมไป เพราะผมเชื่อว่าถ้าผมมีโอกาสเพิ่ม ผมจะหารายได้ที่มันมากขึ้นกว่าเดิมได้ ผมรับปากตอนนั้นผมเหมือนทุบหม้อล้มเลย ไปแล้วขอให้ตายในขณะที่เราได้สู้อีกซักทีเถอะวะ สู้กับมันไม่ได้คือไม่ได้ ลุย เพราะโอกาสนั้นเลยทำให้เราได้สู้ทั้งที่เรากำลังจะตายอยู่แล้ว ก่อนตายก็ขอฮึดสู้ และมันเหมือนชีวิตใหม่ผมเลย เพราะเหมือนที่ผมบอกวันแรกผมกลัวมนุษย์มากๆ แต่กลับกลายเป็นว่าวันที่ผมมาขายของวันแรกๆ มันเปลี่ยนโลกผมเลย ” ทุกวันนี้ยังไปออกบูธขายปลาร้าทอด เพราะมีความสุขมากๆ มันเป็นความดีใจในทุกวันที่ผมตื่น ตื่นมาเจอคน ผมไม่ได้มาเพื่ออยากจะขายของแต่ผมอยากมาเจอพลังงานบวกกับคนที่มาซื้อของ พลังงานนั้นมันเป็นกำลังใจให้ผม ไม่ว่าผมจะทำอะไรก็แล้วแต่ ณ ปัจจุบันเนี่ยผมเชื่อว่าสิ่งที่ผมได้รับมันเป็นพลังงานบวกมากกว่าพลังงานลบ ”