เรียกได้ว่ากลายเป็นที่จับตามองเป็นอย่างมากเลยทีเดียวค่ะ โดยเมื่อวันที่ 9 พ.ย. ที่ที่ผ่านมา เมื่อที่มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เปิดเผยกับทีมข่าวทั้งน้ำตา
ว่า ตั้งแต่วันที่ทนายตั้ม พูดที่กองปราบถึงทนายรณณรงค์ เรื่องถูกสวมเขา เพราะภรรยามีชู้หรือไม่ ตั้งแต่วันนั้นจนกระทั่งวันนี้ ตนก็แทบกินไม่ได้นอนไม่หลับมีอาการซึมเศร้า น้ำหนักลดลงไปหลายกิโลกรัม
โดยต้องยอมรับว่ากรณีที่ทนายตั้มพูดนั้นแทงใจดำตนมาก แต่ไม่ใช่เพราะภรรยามีชู้ ภรรยายังอยู่กับตนดี และดูแลลูกๆ แต่เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2566 จู่ๆ ภรรยาของตนก็ได้มากราบเท้าขอโทษและบอกว่าสูญเงินไปจำนวน 2 ล้าน 6 แสนบาท ให้กับมิจฉาชีพ โดยถูกมิจฉาชีพหลอกเอาเงินไปลงทุน ซึ่งเป็นเงินเก็บทั้งหมดที่ตนมีแล้วฝากไว้กับภรรยา วินาทีนั้นตนก็เสียใจมาก สิ้นหวังหมดกำลังใจ เพราะทำงานอย่างหนักตั้งแต่เป็นทนายความ มาเกือบ 20 ปี และพยายามสร้างเนื้อสร้างตัว ซื้อบ้าน ซื้อรถ จนเหลือเงินเก็บ แต่กลับถูกภรรยาซึ่งเป็นคนในบ้านแอบนำเงินไปนายรณณรงค์ กล่าวต่ออีกว่า ซึ่งสาเหตุนี้ทำให้ตนไม่กล้าไว้เนื้อเชื่อใจ