นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย เข้ายื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพื่อขอตรวจสอบกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มีพฤติกรรมฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือมีพฤติการณ์ ทุจริตต่อหน้าที่หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญหรือไม่
เนื่องจาก พล.อ.ประวิตร ไม่มาเข้าร่วมการประชุมสภาทั้งที่เป็น สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรนับตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2566 จนถึงปัจจุบัน พล.อ.ประวิตร ลาการประชุมถึง 84 ครั้ง จากการประชุมทั้งหมด 95 ครั้ง ซึ่ง พล.อ.ประวิตร แจ้งลาว่าติดภารกิจ และป่วยไม่สามารถมาร่วมประชุมได้ แต่น่าจะเข้าข่ายเป็นการแจ้งเท็จ นอกจากนี้ในการลงชื่อมาประชุม จำนวน 11 ครั้ง ของ พล.อ.ประวิตร ยังมีข้อมูลที่น่าสงสัยว่า พล.อ.ประวิตรไม่ได้มาเซ็นชื่อ ณ ที่สภากำหนด และให้เจ้าหน้าที่ของรัฐสภานำบัตรประจำตัว สส. มาลงชื่อแทน ซึ่งถือเป็นการไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานกริยธรรมอย่างร้ายแรง ขอให้ป.ป.ช.ดำเนินการตรวจสอบเพราะในอาคารรัฐสภามีกล้องวงจรปิดจำนวนมาก ซึ่งส่วนตัวได้ข้อมูลมาว่า พล.อ.ประวิตร เตรียมจะอ้างว่าเป็นเพราะอาการป่วยจึงไม่สามารถมาลงชื่อที่จุดลงชื่อได้ ขอบอกว่าอย่าทำ เพราะตนรู้กระทั่งชื่อของคนที่มาลงชื่อแทน ชื่อมีอักษรย่อ ต และ อ จึงขอให้ไปปรึกษาฝ่ายกฎหมายให้ดี ว่าจะเป็นพยาน หรือ ตัวการร่วม ก็เลือกเอา เพราะมีแนวคำพิพากษาของศาลฎีกา แผนกคดีของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เรื่องการเสียบบัตรแทนกันไว้อยู่แล้ว ซึ่งส่วนตัวมั่นใจว่าการตรวจสอบเรื่องนี้จะไม่มีข้อกังขาเหมือนกรณีแหวนแม่ นาฬิกาเพื่อน นายพร้อมพงศ์ ฝากเตือนสติ พล.อ.ประวิตร ที่อดีตเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ เคยดำรงตำแหน่งใหญ่ทางการเมือง ปัจจุบันเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และเสนอตัวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ดังนั้นเพื่อความสง่างามขอให้แถลงข่าวลาออกจากการเป็น สส.และขอโทษประชาชนเพื่อจบเรื่องทั้งหมดตนก็จะไม่ตรวจสอบต่อ พร้อมกันนี้นายพร้อมพงศ์ ยังเปิดเผยว่าในวันจันทร์หน้า ตนจะเดินหน้าร้องเรียนตรวจสอบ พล.อ.ประวิตร ต่อเป็นภาคที่ 3 ที่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เรื่องนักบุญทุนชาวบ้านเดินทางหรู กินอยู่สบาย หลัง พบว่า พล.อ.ประวิตรลาการประชุมในวันที่ 27-29 มีนาคม ไปต่างประเทศ และจะมีภาค 4 ภาค5 ต่อ ยืนยันว่าไม่มีมวยลงต้มคนดูหรือไม่ได้ทำเพราะอคติต่อ พล.อ.ประวิตร แต่ทำเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ถ้าจะเอาพวกหิวแสงมาดิสเครดิตตนขอให้หยุด เพราะน่าจะเป็นพิษกับ พล.อ.ประวิตร มากกว่า พวกนี้ไปอยู่ที่ไหนหัวหน้าตายหมด พรรคแตกหมด ซึ่งตัวจริงก็กำลังลาออกกันหมดแล้ว เหลือแต่ไอ้ห้อยไอ้โหน ซึ่งตนจะตรวจสอบ อย่างถึงพริกถึงขิงยืนยันไม่ได้เป็นการหวังโจมตีทางการเมือง ไม่มีการร้องแบบสะเปะสะปะส่งทางไปรษณีย์แบบไม่หวังผล พร้อมกันหรือยังบอกด้วยว่าตั้งแต่ออกมาตรวจสอบเรื่องนี้มีคนติดต่อมาข่มขู่บางคนก็มาขอร้องแต่ตนไม่สนใจ ก่อนจะนิ่งผมกลิ้งมาก่อน