จุลพันธ์ ตอบชัด ดิจิทัลวอลเล็ต หลังปิดลงทะเบียน ถูกตัดสิทธิแล้ว 1 แสนคน ส่วนอีก 2 ล้านคน ยืนยันตัวตนไม่สำเร็จ แนะวิธีแก้ ก่อนพลาดสิทธิ ชวดรับเงินหมื่น
ความคืบหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า ขณะ กลุ่มผู้ใช้สมาร์ทโฟนลงทะเบียนใช้สิทธิแล้ว 36.4 ล้านคน แต่ในจำนวนนี้มี 100,000 ราย ที่กรอกข้อมูลไม่ถูกต้อง กล่าวคือ ชื่อไม่ตรงกับเลขบัตรประชาชน ทำให้ถูกตัดสิทธิ์รับเงิน 10,000 บาท ทั้งยังมีผู้ที่ยังยืนยันตัวตนไม่สำเร็จอีกประมาณ 2 ล้านคน
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนเข้าไปตรวจสอบการลงทะเบียนในแอปฯ ทางรัฐเพื่อให้แน่ใจว่าลงทะเบียนเสร็จสิ้นทุกขั้นตอนแล้ว เมื่อเข้าไปในแอปฯ จะเห็นการแจ้งเตือนในกล่องข้อความ ให้เข้าไปยืนยันตัวตน (KYC) ตามขั้นตอนให้เรียบร้อย เพราะหากยืนยันตัวตนไม่สำเร็จ จะถือว่าไม่ได้ลงทะเบียน และพลาดรับเงิน 10,000 บาท
อย่างไรก็ตาม นายจุลพันธ์ เน้นย้ำว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะเดินหน้าต่อไปอย่างแน่นอน ปัจจุบันรัฐบาลกำลังพัฒนาระบบการจ่ายเงินเพื่อให้เฟสที่ 2 ได้รับเงินในรูปแบบดิจิทัล พร้อมเน้นย้ำเป้าหมายหลักคือต้องการสร้างเศรษฐกิจแบบดิจิทัลในระยะยาว
วิธียืนยันตัวตนในแอปฯ ทางรัฐ
สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ยืนยันตัวตนผ่านแอปฯ ทางรัฐ สามารถทำได้ผ่าน 2 ช่องทาง คือ ยืนยันตัวตนภายในแอปพลิเคชั่น และจุดให้บริการทั้ง 5 จุด ดังนี้
1. การยืนยันตัวผ่านการถ่ายบัตรประชาชนลงในแอปฯ
ประชาชนสามารถยืนยันตัวตนโดยการถ่ายรูปบัตรประชาชน และถ่ายภาพหน้าตรงตามขั้นตอนที่ระบุในแอปพลิเคชัน ก็สามารถเข้าใช้งานบริการได้ทันที
2. การยืนยันตัวตนผ่านทางจุดให้บริการ สามารถทำได้ผ่าน 5 ช่องทาง ดังนี้
ยืนยันตัวตนผ่าน ตู้บริการอเนกประสงค์ภาครัฐ
1. สอดบัตรประชาชนที่ตู้บริการอเนกประสงค์ภาครัฐ เพื่อเข้าสู่ระบบ
2. ศึกษาการให้ความยินยอมให้ข้อมูลส่วนบุคคลในการใช้ตู้บริการอเนกประสงค์ภาครัฐแล้วกด “ตกลง”
3. กด “ลงทะเบียนภาครัฐ” ที่หน้าเมนู
4. หน้าจอจะแสดงรายละเอียดข้อมูลของผู้ใช้งาน จากนั้นให้กด “ยืนยันข้อมูล”
5. กรอกรหัส OTP 6 หลัก ที่ได้รับทาง SMS ที่ส่งไปยังหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ใช้งาน จากนั้นกด “ยืนยันเบอร์โทรศัพท์มือถือ”
6. กรอกเบอร์โทรศัพท์ของผู้ใช้งาน จากนั้นกด “ยืนยันเบอร์โทรศัพท์มือถือ”
7. หน้าจอจะแสดงผลว่า “ท่านยืนยันข้อมูลสำเร็จแล้ว” จากนั้นให้ดึงบัตรประชาชนออก และกดลิงก์ที่ได้จาก SMS เพื่อดำเนินการต่อในแอปพลิเคชันทางรัฐ
8. กรอกชื่อบัญชีผู้ใช้และรหัสผ่านที่ผู้ใช้งานลงทะเบียนผ่านตู้บริการอเนกประสงค์ภาครัฐไว้ก่อนหน้านี้ จากนั้นกด “เข้าสู่ระบบ”
9. เมื่อเข้าสู่ระบบแล้ว จะเข้าสู่หน้าการยืนยันตัวตน ให้ผู้ใช้งานกด “เริ่มยืนยันตัวตน”
10. ศึกษาข้อแนะนำในการสแกนใบหน้า แล้วกด “เริ่มยืนยันตัวตน”
11. สแกนใบหน้าโดยจัดวางใบหน้าให้อยู่ในกรอบ
12. พยักหน้าช้าๆ อย่างต่อเนื่อง
13. ระบุ Pin Code 6 หลัก เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
14. ระบุ Pin Code เดิมอีกครั้งเพื่อยืนยันตัวตน
15. เปิดใช้งานสแกนใบหน้าโดยกด “ใช้งาน” จากนั้นทำการสแกนใบหน้า
16. เมื่อผู้ใช้งานสแกนใบหน้าสำเร็จให้กด “เริ่มใช้งาน”
17. จากนั้นผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้บริการต่างๆ ในแอปพลิเคชันทางรัฐได้ทันที
ยืนยันตัวตนผ่าน ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น 7-11 เคาน์เตอร์เซอร์วิส ทุกสาขาทั่วประเทศ
1. เปิดแอปฯ ทางรัฐ แล้วเลือกช่องทางการยืนยันตัวตน โดยกดเลือก “ยืนยันตัวตนที่ 7-Eleven”
2. ระบุเลขบัตรประชาชน และเบอร์โทรศัพท์มือถือ จากนั้นกด “สร้าง QR Code”
3. แจ้งพนักงานว่ามายืนยันตัวตน แอปฯ ทางรัฐ และแสดง QR Code ให้สแกน จากนั้นเสียบบัตรประชาชนที่เครื่องอ่านบัตร รับใบเสร็จแล้วกดลิงก์ที่ได้จาก SMS เพื่อดำเนินการต่อในแอปฯ ทางรัฐ
4. หลังจากกดลิงก์ที่ได้รับทาง SMS จะเข้าสู่ขั้นตอนสแกนใบหน้าในแอปฯ ทางรัฐ ศึกษาข้อแนะนำ แล้วกด “เริ่มสแกนใบหน้า”
5. สแกนใบหน้าโดยจัดวางใบหน้าให้อยู่ในกรอบ
6. เมื่อผู้ใช้งานสแกนใบหน้า ยืนยันตัวตนสำเร็จแล้ว ให้กด “สมัครสมาชิก”
7. ศึกษาข้อกำหนดและความเป็นส่วนตัว แล้วกดทำเครื่องหมายที่ช่องสี่เหลี่ยม จากนั้น กด “ยอมรับ”
8. กรอกชื่อ บัญชีผู้ใช้ และรหัสผ่าน ตามคำแนะนำ แล้วกด “ยืนยัน”
9. ระบุ PIN code 6 หลัก เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
10. ระบุ PIN code เดิมอีกครั้ง เพื่อยืนยันตัวตน
11. เปิดการใช้งานอัตลักษณ์บุคคล โดยกดปุ่ม ใช้งาน
12. เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนเสร็จสิ้นแล้ว กด “เริ่มใช้งาน”
13. จากนั้นผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้บริการต่าง ๆ ในแอปฯ ทางรัฐได้ทันที
ยืนยันตัวตนผ่าน แอปฯ ThaiD
1. ทำการดาวน์โหลดแอปฯ ThaID ให้เรียบร้อย
2. เลือกช่องทางในการยืนยันตัวตนด้วยตนเองบนแอปฯ ThaID และทำการลงทะเบียนให้เรียบร้อย
3. ดาวน์โหลดและเข้าสู่แอปฯ “ทางรัฐ” และกดปุ่ม “สมัครทางรัฐ ด้วย ThaID”
4. ทำการยอมรับข้อกำหนดและความเป็นส่วนตัว โดยระบบจะนำมาสู่ ThaID เพื่อขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ให้กดปุ่ม “ยินยอม”
5. ตั้งค่ารหัสผ่านในการเข้าใช้งานแอปฯ ทางรัฐ
6. ตั้งค่า PIN Code ในการเข้าใช้งานแอปฯ ทางรัฐ
7. เปิดสแกนใบหน้า หรือ สแกนลายนิ้วมือ เพื่อเข้าสู่ระบบ
8. สามารถเริ่มใช้งานเข้าถึงบริการภาครัฐบนแอปฯ “ทางรัฐ” ได้ทันที
ยืนยันตัวตนผ่าน ตู้บุญเติม
ประชาชนสามารถยืนยันตัวตนเพื่อลงทะเบียนใช้งานแอปพลิเคชั่นทางรัฐ ผ่านตู้บุญเติมที่มีกล้องหน้าตู้เท่านั้น
1. เปิดแอปทางรัฐ แล้วเลือกช่องทางการสมัคร โดยกดเลือก “สมัครที่ตู้บุญเติม”
2. เตรียมบัตรประชาชน และโทรศัพท์มือถือของท่านไปที่ตู้บุญเติมที่รองรับการยืนยันตัวตน
3. เลือกเมนู “ทางรัฐ” แล้วทำตามขั้นตอนบนหน้าจอของตู้บุญเติม
4. เสียบบัตรประชาชนของท่านที่ช่องเสียบบัตรประชาชนของตู้บุญเติม
5. เมื่อทำตามขั้นตอนที่ตู้บุญเติมเสร็จแล้ว ให้กดลิงก์ที่ได้รับทาง SMS เพื่อดำเนินการต่อในแอปทางรัฐ (กรุณาดึงบัตรประชาชนของท่านออกหลังจากดำเนินการเสร็จสิ้น)
6. หลังจากกดลิงก์ที่ได้รับทาง SMS จะเข้าสู่ขั้นตอนสแกนใบหน้าในแอปทางรัฐ ศึกษาข้อแนะนำแล้วกด “เริ่มสแกนใบหน้า”
7. สแกนใบหน้าโดยจัดวางใบหน้าให้อยู่ในกรอบ
8. เมื่อผู้ใช้สแกนใบหน้าสำเร็จให้กด “สมัครสมาชิก”
9. ศึกษาข้อกำหนดและความเป็นส่วนตัว แล้วกดทำเครื่องหมายที่ช่องสี่เหลี่ยมจากนั้นกด “ยอมรับ”
10. กรอกชื่อ บัญชีผู้ใช้ และ รหัสผ่าน ตามคำแนะนำ แล้วกด “ยืนยัน”
11. ระบุ Pin Code 6 หลัก เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
12. ระบุ Pin Code เดิมอีกครั้ง เพื่อยืนยันตัวตน
13. เปิดการใช้งานสแกนอัตลักษณ์บุคคล
14. เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนเสร็จสิ้นแล้ว กด “เริ่มใช้งาน”
15. จากนั้นผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้บริการต่าง ๆ ในแอปพลิเคชันทางรัฐได้ทันที
ยืนยันตัวตนผ่าน ไปรษณีย์ไทยทุกสาขา
1. เปิดแอปทางรัฐ แล้วเลือกช่องทางการยืนยันตัวตน โดยกดเลือก “ยืนยันตัวตนที่ทำการไปรษณีย์”
2. เตรียมบัตรประชาชนและโทรศัพท์มือถือของท่านไปยังที่ทำการไปรษณีย์
3. จากนั้นแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าต้องการ “ยืนยันตัวตน แอปทางรัฐ”และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่
4. เมื่อทำตามขั้นตอนเสร็จเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมตรวจสอบหมายเลขบัตรประชาชน และชื่อ -สกุล ในใบเสร็จ จากนั้นให้กดลิงก์ที่ได้รับทาง SMS เพื่อดำเนินการต่อในแอปทางรัฐ
5. หลังจากนั้นกดลิงก์ที่ได้รับทาง SMS จะเข้าสู่ขั้นตอนการสแกนใบหน้าในแอปทางรัฐ ศึกษาข้อแนะนำแล้วกด “เริ่มสแกนใบหน้า”
6. สแกนใบหน้าโดยจัดวางใบหน้าให้อยู่ในกรอบ
7. เมื่อผู้ใช้งานสแกนใบหน้ายืนยันตัวตนสำเร็จแล้ว ให้กด “สมัครสมาชิก”
8. ศึกษาข้อกำหนดและความเป็นส่วนตัวแล้วกดทำเครื่องหมายที่ช่องสี่เหลี่ยม จากนั้นกด “ยอมรับ”
9. กรอกชื่อ บัญชีผู้ใช้และรหัสผ่านตามคำแนะนำ แล้วกด “ยืนยัน”
10. ระบุ Pin Code 6 หลักเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
11. ระบุ Pin Code เดิมอีกครั้งเพื่อยืนยันตัวตน
12. เปิดการใช้งานอัตลักษณ์บุคคล โดยกดปุ่ม “ใช้งาน”
13. เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนเสร็จสิ้นแล้ว กด”เริ่มใช้งาน”