เว็บไซต์ต่างประเทศได้รายงานว่า นางเอกสาวชาวจีน ถังเหว่ย (Tang Wei) เธอเกิดที่เมืองหางโจว จังหวัดเจ้อเจียง ในเดือนตุลาคมปี 1979 พ่อของเธอเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียง แม่ของเธอเป็นนักแสดง เธอหน้าตาดีตั้งแต่เล็กและมีพรสวรรค์ในด้านวรรณกรรม
หลังจากจบวิชาการแสดงจากสถาบันการแสดงกลางกรุงปักกิ่งในปี 2004 เริ่มมีผลงานแสดงภาพยนตร์และภาพยนตร์โทรทัศน์ ก่อนจะมีชื่อเสียงจากการรับบทเป็นเจิ้งผิงรื่อ จากภาพยนตร์เรื่อง Lust, Caution (ชื่อไทยเล่ห์ราคะ) ซึ่งส่งให้เธอได้รับรางวัลม้าทองคำในสาขานักแสดงหน้าใหม่และรางวัลภาพยนตร์จีนสาขานักแสดงนำหญิง เมื่อปี 2013 ถังเหว่ยได้แสดงภาพยนตร์เรื่อง Late Autumn ของเกาหลีและได้พบกับผู้กำกับชาวเกาหลี คิมแทยง เขามีอายุมากกว่าถังเหว่ย 10 ปี เคยแต่งงานมาแล้วครั้งหนึ่ง ถังเหว่ยเป็นนักแสดงที่มีพรสวรรค์ที่หายาก และคิมแทยงก็ชื่นชมฝีมือการแสดงของเธอเป็นอย่างมาก หลังจากถ่ายภาพยนตร์เรื่อง Late Autumn เสร็จ ทั้งคู่ก็เริ่มเป็นแฟนกัน และได้จดทะเบียนสมรสที่เกาหลีใต้เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2014 คิมแทยงเป็นคนกตัญญู หลังจากแต่งงานแล้ว ถังเหว่ยอาศัยอยู่กับพ่อแม่ของสามี ทีแรกถังเหว่ยนึกว่าชีวิตหลังแต่งงานคงจะดีงามเหมือนในหนัง แต่พอเอาเข้าจริง ๆ ชีวิตจริงแตกต่างจากจินตนาการของเธอมาก ๆ หลังจากฮันนีมูนเสร็จ คิมแทยงก็เริ่มสอนถังเหว่ยว่า การเป็นลูกสะใภ้เกาหลีที่ดีต้องทำยังไง เขาได้ซื้อซีดีชุดหนึ่งให้เธอ โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับประเพณีของเกาหลี ข้อห้ามในวันหยุด และวิธีการการทำอาหารเกาหลีเป็นต้น หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ถังเหว่ยเริ่มเข้าสู่บทบาทการเป็นลูกสะใภ้เกาหลี ถังเหว่ยต้องลุกตั้งแต่เวลา 5:30 น. ทุกวัน เพื่อเตรียมอาหารเช้าให้กับทุกคน คนเกาหลีให้ความสำคัญกับอาหารเช้ามาก ต้องมีข้าวเปล่า น้ำซุป กิมจิ และขนมหวานเป็นต้น เธอต้องเตรียมกับข้าว 10 เมนูทุกเช้า โต๊ะรับประทานอาหารของเกาหลีเป็นโต๊ะขนาดเล็กที่มีขาสั้น เวลาทานข้าวต้องนั่งทับขาให้เรียบร้อย ไม่งั้นจะถือว่าไม่สุภาพ การนั่งจนขาชาเป็นเรื่องปกติสำหรับเธอ หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ ถังเหว่ยก็ต้องชงกาแฟและเตรียมน้ำผลไม้ให้กับพ่อแม่ของสามี เมื่อพ่อแม่นอนกลางวันตื่นขึ้นมา เธอก็ต้องเตรียมน้ำชาและของหวานให้พวกเขา และที่สำคัญคือ เธอไม่ชินกับอาหารของเกาหลี พอได้กลิ่นของซุปมิโซะก็จะมีมีอาการคลื่นไส้ตาม.. แม่สามีเห็นใจเธอ จึงไม่ค่อยจริงจังกับเธอเท่าไหร่ แต่ภาระของเธอก็ยังหนักเหมือนเดิม เธอต้องทำงานบ้านทั้งหมดคนเดียว จนเริ่มเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่า การเป็นลูกสะใภ้เกาหลีมันยากจริง ๆ ในเดือนมิถุนายนปี 2015 ถังเหว่ยได้ถ่ายภาพยนตร์เรื่อง Finding Mr. Right หลังจากที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายเสร็จ เธอไม่อยากกลับไปเกาหลีในทันที เลยโกหกสามีว่า “แม่ฉันป่วยหนัก ฉันจะไปดูแลแม่ที่หางโจว” หนึ่งสัปดาห์ต่อมา คิมแทยงรีบบินไปที่หางโจวเพื่อไปเยี่ยมแม่ยาย ถึงได้รู้ความจริงว่าแม่ยายไม่ได้ป่วยอย่างใด มันเป็นเพียงข้ออ้างของถังเหว่ย เพราะไม่อยากจะกลับไปเกาหลีเท่านั้น คิมแทยงบอกกับกับถังเหว่ย ว่า “คุณแต่งงานกับผมแล้วก็เป็นลูกสะใภ้ของชาวเกาหลี ควรมุ่งความสนใจไปที่ชีวิตในเกาหลี” ถังเหว่ยจึงเปิดใจกับสามีว่า “ทะเบียนบ้านของฉันอยู่ในฮ่องกง เราไปใช้ชีวิตที่ฮ่องกงดีมั้ย” สามีเธอไม่เห็นด้วยและตอบเธอว่า “ถ้าผมทิ้งพ่อแม่แล้วไปอยู่กับคุณที่ฮ่องกง ผมจะถูกกล่าวหาว่าเป็นลูกไม่กตัญญู พ่อแม่อายุมากขึ้นทุกวัน ผมต้องอยู่ข้าง ๆ ดูแลพวกเขา” เธอเถียงกลับไปว่า “พ่อแม่ของฉันก็แก่แล้ว ฉันก็ต้องเลี้ยงดูแลพวกเขาเช่นกัน” คนหนึ่งจะให้กลับไปอยู่เกาหลี ส่วนอีกคนอยากจะไปอยู่ฮ่องกง ทั้งคู่เกิดความขัดแย้งกันจนเริ่มมีปัญหากัน ในเดือนธันวาคมปี 2015 ถังเหว่ยไปถ่ายโฆษณาเครื่องสำอางที่ฮ่องกง หลังจากเสร็จงานก็พักอยู่ที่ฮ่องกงต่อ คิมแทยงจึงบินมาฮ่องกงเพื่อมาเยี่ยมภรรยา และได้แอบจองตั๋วเครื่องให้ภรรยาไว้ เพื่อชวนภรรยากลับไปเกาหลีด้วยกัน วันรุ่งขึ้นถังเหว่ยรู้สึกไม่สบายและไปหาหมอโรงพยาบาล หลังตรวจสอบก็ได้รับการแจ้งว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ สองคนดีใจจนน้ำตาไหล คิมแทยงหวังว่าถังเหว่ยจะยอมกลับไปอยู่ที่เกาหลี และตั้งใจทำหน้าที่ของภรรยาให้ดี แต่เธอเป็นนักแสดงที่กำลังดัง จะให้เธอทิ้งทุกอย่างและไปอยู่กับงานบ้านเป็นวัน ๆ มันเป็นไปได้ยากมาก หลังจากปรึกษาเพื่อน ๆ คิมแทยงได้เสนอกับถังเหว่ยว่า “งั้นเราซื้อบ้านในฮ่องกงดีมั้ย จะได้ผลัดกันอยู่ฮ่องกงและเกาหลีด้วยกัน” เธอถามสามีไปว่า “พ่อแม่ของคุณจะเห็นด้วยหรือ” สามีตอบเธอว่า “เพื่อความสุขของคนรุ่นหลัง ผมเชื่อว่าพวกเขาจะเห็นใจเรา” หลังจากนั้นไม่นาน ถังเหว่ยและสามีของเธอก็กลับไปเกาหลีด้วยกัน คิมแทยงได้เปิดใจคุยกับพ่อแม่ และสุดท้ายพ่อแม่ทั้งสองก็สนับสนุนความคิดของเขา เพื่อที่จะต้อนรับการมาถึงของชีวิตใหม่ สองคนได้จัดบ้านที่แสนอบอุ่นไว้ในฮ่องกง เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2016 ถังเหว่ยได้คลอดลูกสาวที่น่ารักในฮ่องกง บทบาทการเป็นแม่ ทำให้อารมณ์ของเธอดีขึ้นเยอะเลย พออยู่ฮ่องกงไปสักพัก เธอก็จะชวนสามีพาลูกสาวกลับไปหาปู่และย่าที่เกาหลี เวลาอยู่ในเกาหลีเธอยังได้เรียนรู้วิธีการทำกิมจิกับแม่สามีของเธอ เมื่อเธอได้พบกับผู้อาวุโสหน้าบ้าน เธอก็จะไหว้พวกเขาเหมือนผู้หญิงเกาหลี.. เห็นเธอเหมือนภรรยาชาวเกาหลีขึ้นทุกที สามีของเธอก็รู้สึกดีใจ เมื่อวันตรุษจีนของปี 2018 พวกเขาได้รับพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายมาที่ฮ่องกง ทั้งครอบครัวได้อยู่ด้วยกันฉลองวันตรุษจีนอย่างมีความสุข ถังเหว่ยได้เตรียมกี่เพ้าสองชุดให้แม่สามี หลังจากที่กลับไปที่เกาหลี แม่สามีของเธอก็ใส่ชุดกี่เพ้าไปโชว์ให้เพื่อนบ้านดู และอวดกับทุกคนว่า “นี่คือของขวัญตรุษจีนที่ลูกสะใภ้ให้มา” จนใคร ๆ ก็ชื่นชมถังเหว่ยว่าเป็นลูกสะใภ้ที่ดี ชีวิตการแต่งงานที่มีความสุขและความสามัคคี ได้ช่วยทำให้อาชีพของทั้งสองดีขึ้นเรื่อย ๆ ภาพยนตร์เรื่องที่เธอเล่นก็ได้รับความนิยมหลายเรื่อง ส่วนภาพยนตร์ที่สามีของเธอถ่ายนั้น ก็ได้รับความนิยมอย่างมากเช่นกัน ในเกาหลี ถังเหว่ย เป็นลูกสะใภ้เกาหลีที่ดี ในฮ่องกงเธอกลายเป็นแม่บ้านที่รักชีวิตและกลายเป็นผู้หญิงที่มีความสุข ภูมิปัญญาของเธอ ช่วยทำให้ชีวิตการแต่งานของเธอมีความสุขและมีชีวิตชีวามากขึ้น ขอให้ชีวิตคู่ของคู่นี้มีความสุขตลอดไปนะ ที่มา: LIKER