เศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและหนึ่งในแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย
คุณเศรษฐา ทวีสิน เกิดวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2505 ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย หนึ่งในแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย อดีตประธานอำนวยการและ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ผู้นำการขับเคลื่อนแสนสิริ สู่บริษัทชั้นนำในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย ทั้งนี้ ก่อนร่วมงานกับแสนสิริ คุณเศรษฐา เคยทำงานกับ Procter & Gamble บริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่เคลื่อนไหวเร็ว (FMCG)
คุณเศรษฐา จบการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐแมสสาชูเซ็ตส์ (University of Massachusetts) และปริญญาโทในสาขาบริหารธุรกิจด้านการเงินจาก บัณฑิตวิทยาลัยแคลมอนต์ (Claremont Graduate School) สหรัฐอเมริกา
ขณะที่บริหารแสนสิริ ด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและแนวทางการบริหารธุรกิจที่ครอบคลุม คุณเศรษฐาผลักดันให้แสนสิริเติบโตอย่างแข็งแกร่งมาเป็นระยะเวลาเกือบ 40 ปี ทั้งยังได้สร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์แสนสิริในกลุ่มผู้บริโภค พร้อมทั้งเป็นผู้นำในการสร้างสรรค์มาตรฐานต่างๆ
ที่ผ่านมา คุณเศรษฐายังเป็นผู้สังเกตการณ์ที่เฉียบคมเกี่ยวกับวาระทางสังคมของประเทศ และได้มอบหมายแนวคิดในการสร้างกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างรากฐานที่แข็งแรงทางด้านเศรษฐกิจและสังคมให้กับประเทศชาติในหลายๆด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลักดันการสร้างความเปลี่ยนแปลงทางสังคม สนับสนุนความเท่าเทียมและหลากหลาย รวมถึงในหลายโครงการที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชน
Milestone ในภาคธุรกิจ เศรษฐาเริ่มงานในอาชีพแรกในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการผลิตภัณฑ์ บริษัท พร็อกเตอร์ แอนด์ แกมเบิ้ล ประเทศไทย ก่อนเข้าร่วมงานกับแสนสิริ
- พ.ศ. 2533 เริ่มเข้าทำงานในบริษัท แสนสำราญ จำกัด
- พ.ศ. 2537 มีการเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นและเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัท แสนสิริ จำกัด
- พ.ศ. 2538 ภายใต้การบริหารงานของตน นำบริษัทเข้าจดทะเบียนแปรสภาพเป็น บริษัทมหาชนจำกัดและเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 100 ล้านบาท
- พ.ศ. 2539 จัดตั้งบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เพื่อดูแลงานบริหารจัดการโครงการ และนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เพราะเล็งเห็นว่าการต่อยอดธุรกิจให้ครบวงจรเป็นจุดแข็งในการนำธุรกิจไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน
- พ.ศ. 2540 ประเทศไทยและบริษัทเผชิญวิกฤติต้มย้ำกุ้ง ซึ่งเป็นวิกฤติทางการเงินครั้งรุนแรงที่สุด สามารถดำเนินการบริหารจัดการแก้ไขชำระหนี้และนำองค์กรผ่านพ้นมรสุมธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว
- พ.ศ. 2543 ทำการปรับโครงสร้างหนี้เสร็จสิ้นเป็นรายแรกๆ หลังจากวิกฤติปี 2540 และเริ่มขยายธุรกิจรุกการทำโครงการแนวราบ (บ้านเดี่ยว) โครงการ แรกในทำเลวัชรพล
- พ.ศ. 2550 พัฒนาโครงการ บ้านแสนสิริ สุขุมวิท บ้านเดี่ยวใจกลางเมือง และได้รับการตอบรับอย่างดี จนได้รับรางวัล Asia’s Best Residential Project of The Year 2006
- พ.ศ. 2550 ด้วยเห็นว่าการส่งเสริมและสนับสนุนเด็กและเยาวชนเป็นสิ่งสำคัญ ได้ริเริ่มโครงการ แสนสิริ อะคาเดมี่ คลินิคสอนฟุตบอลเยาวชนทั่วไป โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ถึงปัจจุบันนี้มีเด็กกว่า 8 พันคนที่ผ่านการฝึกสอน ของโครงการและหลายคนได้โอกาสเข้าเรียนและติดทีมชาติเยาวชน
- พ.ศ. 2553 ริเริ่มการจับมือเป็นพันธมิตรกับ UNICEF เพื่อสนับสนุนและต่อยอด ประเด็นสิทธิและสวัสดิภาพของเด็กและเยาวชน โดยเป็นองค์กรธุรกิจ ของไทยองค์กรแรกๆ ที่ได้รับเกียรติร่วมมือ โดยความร่วมมือดังกล่าว ได้ดำเนินเป็นระยะเวลา 10 ปี จนกระทั่งสิ้นสุดในปี พ.ศ. 2563
- พ.ศ. 2555 นำพาองค์กรรุกธุรกิจที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัดตามหัวเมืองสำคัญๆ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง (ภูเก็ต เชียงใหม่ หัวหิน ขอนแก่น พัทยา และเขาใหญ่)
- พ.ศ. 2556 ได้รับรางวัล Thailand Property Award สาขา Best Housing Development
- พ.ศ. 2557 เป็นตัวแทนภาคเอกชนรายเดียวของประเทศไทยเข้าร่วม UNICEF Innovation & Action Workshop Panel ที่กรุงนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา เพื่อเสวนาเรื่องของสิทธิและสวัสดิภาพเด็ก
- พ.ศ. 2559 เปิดตัวโครงการแฟล็กชิป 98 ไวร์เลส บนถนนวิทยุ ด้วยมูลค่าโครงการ สูงถึง 8,500 ล้านบาท บนทำเลที่มีราคาที่ดินสูงที่สุด ณ ขณะนั้น (ได้รับรางวัล Asia Pacific Property Award ในปี พ.ศ. 2561)
- พ.ศ. 2559 ได้รับรางวัล Global CSR Summit and Award (Silver Award for CSR and Leadership)
- พ.ศ. 2560 มองการณ์ไกล ขยายฐานธุรกิจด้วยการร่วมลงทุนกับบริษัทระดับโลก 6 ราย รวมถึง Standard International เช่น บริหารโรงแรมชื่อดัง ระดับโลก และเข้าดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการ ของ Standard International
- พ.ศ. 2562 นำองค์กรรับรางวัลชนะเลิศ ด้านองค์กรนวัตกรรมดีเด่น ประเภทธุรกิจ ขนาดใหญ่ จาก สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ
- พ.ศ. 2563 นำบริษัทลงนามในข้อตกลง United Nations Global Standards of Conduct for Business กับ UNDP ซึ่งเป็นบริษัทไทยแรกในไทย ที่ดำเนินการเรื่องนี้ เพื่อสนับสนุน และลดการแบ่งแยกความเหลื่อมล้ำสำหรับกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ
- พ.ศ. 2564 ได้รับรางวัลองค์กรต้นแบบ ด้านสิทธิมนุษยชน (รางวัลชมเชย จากกรมคุ้มครองแรงงานและสวัสดิการสังคมกระทรวงยุติธรรม)
- พ.ศ. 2565 นำองค์กรประกาศจุดยืนเรื่องสิ่งแวดล้อมและกำหนดเป้าหมาย การก้าวเข้าสู่ Net Zero เป็นรายแรกของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
- พ.ศ. 2565 ยุติการทำงานทั้งหมดในบริษัท แสนสิริ จำกัด มหาชน ในตำแหน่ง ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ รวมทั้งทุกตำแหน่งในฐานะกรรมการบริษัท และกรรมการชุดย่อยของบริษัท ได้แก่ ประธานกรรมการบริหาร รองประธานกรรมการลงทุน และกรรมการบรรษัทภิบาทลและความยั่งยืน โดยให้มีผลนับตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. 2566 เป็นต้นไป
- พ.ศ 2566 ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย หนึ่งในแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย