กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาในทันทีเมื่อ โซเชียลได้ทำการแชร์เรื่องราวของ นักแสดง หนุ่มกล้ามแน่นอย่าง
เอ พศิน เรืองวุฒิ หลังเจ้าตัวออกมา ไลฟ์สด เล่านิทาน แฉสาวตีมึน ยืมเงินซื้อกระเป๋า แต่ยอมไม่คืน!
ครั้งนั้นลูกชายของผมก็ไปด้วย ส่วนเขาก็มีเพื่อนมาด้วย เราไปเดินซื้อของกัน หลังจากนั้น เอ ก็ไปส่งทีมงานคนหนึ่งในรายการนั้นที่สนามบิน เพราะเขากำลังจะไปเรียนต่อ เสร็จแล้วผมก็ถูกชวนไปที่บ้านของนักกฎหมายคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนดังใน Tiktok ตอนนั้นมีเพื่อนที่อยู่ในรายการมาด้วย จึงรู้สึกอุ่นใจ ผมมี 2 บัญชี ก็เลยช่วยฝ่ายหญิงด้วยการโอนไป 50,000 บาท ส่วนอีกบัญชีโอนไป 15,000 บาท ไม่มีคำว่าขอ เพราะเพิ่งเจอกันครั้งที่ 2 จะให้เปย์ก็ไม่ได้ ตอนนั้นผมโอนเงินไปให้เขาเราไม่ใช่สายเปย์ เเต่เราเพียงเเค่อยากช่วย เพราะการไลฟ์มันเป็นช่วงเวลาที่ต้องเเย่งกันเราช่วยเขาเเก้ปัญหาดีกว่าจะให้เขาไปกู้คนอื่นมา ซึ่งมันไม่ใช่การเปย์ เมื่อเวลาผ่านไปความสัมพันธ์ไม่ใช่ เเละตอนนี้เขาคบหากับอีกคนที่มีฐานะดีกว่าผม ถ้าหนูขายกระเป๋าได้ก็โอนคืนมาหน่อย ถึงเงินจะไม่เยอะเเต่เป็นค่าเทอมลูกได้ 1 ปีเลย”ต่ามา เอ ก็ได้โพสต์อินสตาแกรมสตอรี่ โดยมีข้อความระบุว่า “กรณีช่วยบุคคลผู้ใช้จ่ายเกินวงเงิน ช่วยเพราะเมตตา เอื้อเฟื้อ และเชื่อในความซื่อสัตย์และจริงใจ เมื่อผู้อื่น สำรองจ่ายให้ ผู้รับควรสำนึกและจงตอบแทนด้วยความซื่อสัตย์” ซึ่งหลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์ออกไปอย่างต่อเนื่อง ก็ดูเหมือนว่าหนุ่ม เอ จะได้เงินคืนแล้ว โดยเขาได้โพสต์ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวว่า “กรณีศึกษาของศูนย์ไกล่เกลี่ยจบลงด้วยดี ปัญหาได้ถูกแก้ไขแล้ว อย่างถูกต้อง ได้คืนครบถ้วนครับ จะได้นำเงินจำนวนนี้ไปช่วยเหลือสาธารณะกุศล เพื่อเป็นธรรมทานต่อไป”
โดยช่วงหนึ่งของไลฟ์ เอ เล่าว่า “ช่วงหนึ่งของความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นมามันก็ดีงาม เเต่มันเกิดปัญหานิดหน่อย คือเมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา ผมกับเขาเจอกันครั้งที่สอง เป็นการเจอกันที่ค่อนข้างเปิดเผย และปร่งใส ซึ่งตอนนั้นรายการยังไม่ได้ออกอากาศ
ระหว่างนั้นได้มีการไลฟ์ขายกระเป๋าเเบรนด์เนมชื่อดังที่ผู้หญิงชอบใช้ เป็นกระเป๋าที่ขายต่อได้ เเละราคาไม่ตก ฝ่ายหญิงเองก็อยากได้กระเป๋า ราคาอยู่ที่ 120,000 บาท เเต่ตอนนั้นเงินในบัญชีของฝ่ายหญิงไม่สามารถโอนจำนวนหลักเเสนได้ จึงหันมาถามผม ที่ตอนนั้นผมมีเงินอยู่ในบัญชีประมาณ 80,000 บาท ซึ่งวงเงินของผมโอนได้ครั้งละ 50,000 บาทต่อบัญชี