คืบหน้า “พระปลัดใจป๋า” รองเจ้าอาวาสวัดดัง จ.มหาสารคาม ในข่าวซุกสีกา เปย์ไม่อั้น ลาสิกขาแล้วช่วงดึก ด้านแม่เผยไม่ได้กลับมาบ้าน ติดต่อไม่ได้
วันที่ 5 พ.ย. 67 จากที่เพจ คุณท้าวศรีภิรมย์ภักดี โพสต์ข้อความว่า พระปลัดใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น ซุกเลี้ยงอยู่หรู ขอเงินได้เงิน ขอรถได้รถ โอนแล้วแถมเงินสดใจป๋าสุด ๆ ซึ่งเป็นรองเจ้าอาวาสวัดป่าชื่อดังใน ต.เกิ้ง อ.เมืองมหาสารคาม ทำให้ประชาชนและคณะศรัทธาที่เห็นถึงการกระทำของรองเจ้าอาวาสรูปดังกล่าว รู้สึกถึงความไม่สบายใจเกรงว่าจะทำให้ทางวัดป่าเสียหาย จึงอยากให้พระผู้ใหญ่หรือผู้มีอำนาจ ช่วยตรวจสอบถึงพฤติกรรมความเหมาะสม นอกจากนั้นผู้ศรัทธาหลายกลุ่มเห็นถึงความไม่โปร่งใสถึงการเปิดจองวัตถุมงคลต่าง ๆ ว่าถูกต้องหรือไม่นั้น (อ่านข่าว : ผอ. สำนักพุทธฯ สารคาม แจงปมฉาว แฉรองเจ้าอาวาสวัดดัง ซุกสีกา โอนเงินให้ไม่อั้น) หลังจากที่เป็นข่าวทางสำนักงานพระพุทธศาสนา ได้รายงานล่าสุด เจ้าอาวาสและเจ้าคณะปกครองได้เรียกพระปลัดรูปดังกล่าวมาสอบถามข้อเท็จจริง โดยพระรูปดังกล่าวได้ทราบข้อกล่าวหาตามข่าวและเห็นว่าเพื่อไม่ให้เกิดการเสื่อมเสียต่อวัดและคณะสงฆ์ในวงกว้าง จึงได้ลาสิกขาแล้วเมื่อประมาณเที่ยงคืนของวันที่ 5 พ.ย. 67 ที่ผ่านมา โดยมีเจ้าอาวาสวัดเป็นผู้ลาสิกขา และมีเจ้าคณะปกครองรับทราบด้วย ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่บ้านของพระรูปดังกล่าวที่บ้านหนองหล่ม ต.ดอนหว่าน อ.เมือง จ.มหาสารคาม พบกับแม่ทองศรี แม่ของพระรูปดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนเองได้ยินข่าวก็ตกใจ พระคงทำบุญมาแค่นี้ที่จะช่วยเหลือพระพุทธศาสนา แม่ก็ไม่คิดว่าจะมีคนที่มาทำแบบนี้กับพระทำไมถึงทำได้ น่าจะมีผู้อิจฉาหรือคนที่คิดจะทำลายพระ ตอนนี้ก็ไม่สามารถติดต่อได้ แต่ก็ทราบว่าได้ลาสิกขามาแล้วก็ไม่ได้กลับมาที่บ้านนะ นายคำพอง อาจลา ไวยาวัจกรวัดหนองหล่มศรีบุญเรือง กล่าวว่า ตนเองได้ยินข่าวก็ตกใจ เพราะตนเองได้คลุกคลีกับพระมาตลอด พระท่านเป็นคนบ้านนี้ และท่านก็นำกฐินกลับมาที่บ้านเมื่อปีที่แล้วประมาณ 4 ล้านบาท เพื่อสร้างศาลาประมาณ 7 ล้านบาทและยังจะสร้างโซลาร์เซลล์และสนามฟุตบอลอีก เพราะท่านได้ลาสิกขาไปแล้วตนเองก็ทราบข่าวมาก็เสียใจ ทางวัดหนองหล่มคงจะสะดุดลงอย่างแน่นอน ประวัติท่านก็เป็นเณรตั้งแต่เด็ก จนมาบวชเป็นพระเรียนจนจบปริญญาโท จนเป็นพระปลัดมาสอนในมหาวิทยาลัยสงฆ์ เสียดายมากเลย.