วันที่ 30 ต.ค.2567 นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงความคืบหน้าของ โครงการแอ่วเหนือคนละครึ่ง ว่า ขณะนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กำลังรวบรวมสินค้าด้านการท่องเที่ยวรวมถึงแพ็กเกจต่าง ๆ เพื่อลงแอปพลิเคชัน เบส (application base) ของ ททท.
เพื่อให้ร้านค้า โรงแรม ที่พัก สามารถเข้าร่วมโครงการได้ผ่านแอปพลิเคชันนี้ ส่วนประชาชนที่จะเข้าร่วมโครงการสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดผ่านแอปพลิเคชันเบสเพื่อรับสิทธิได้เลย
ส่วนในระยะถัดไปอาจจะมีการพิจารณาออกมาตรการอื่น ๆ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวด้วย เช่น โครงการเที่ยวคนละครึ่ง ที่จะขยายไปทั่วประเทศ หากโครงการแอ่วเหนือคนละครึ่งมีกระแสผลตอบดี และหน่วยที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือดีก็จะต่อยอดไปทั่วประเทศได้
โดยจะต้องรอหารือกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก่อน เพราะนายกฯ ได้นัดหารือถึงแผนฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีต่อเนื่องไปจนถึงปี 68
เมื่อถามว่า จะนำเงินจากงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจในงบประมาณกลาง ปี 2568 มาจัดทำโครงการเที่ยวคนละครึ่งด้วยหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ใช่ อาจจะใช้งบประมาณส่วนงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจมาทำโครงการนี้ด้วย
แอ่วเหนือคนละครึ่ง เริ่มวันไหน
โครงการแอ่วเหนือคนละครึ่ง จะเริ่มในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งจะสอดคล้องกับเทศกาลท่องเที่ยวที่สำคัญของภาคเหนือ เช่น งานลอยกระทง และเทศกาลงานฤดูหนาว
แอ่วเหนือคนละครึ่ง รัฐออกให้กี่บาท
มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายการท่องเที่ยว “แอ่วเหนือคนละครึ่ง” มีรายละเอียด ดังนี้
ให้สิทธิประชาชนจำนวน 10,000 สิทธิ
ตั้งเกณฑ์การใช้จ่ายไว้ 800 บาท
รัฐบาลโดยงบประมาณ ททท. ร่วมออกค่าใช้จ่าย “ครึ่งหนึ่ง” 400 บาท ต่อคน/ทริป
นักท่องเที่ยว ออกค่าใช้จ่าย 400 บาท ต่อคน/ทริป
หมวดการใช้จ่ายท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร ร้านกาแฟ กิจกรรมในแหล่งท่องเที่ยว
อาจจะเป็นรูปแบบการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น หรือใช้คูปอง
หากโครงการได้รับการตอบรับ จะเสนอ ครม.พิจารณาเพิ่มเติม
ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ได้มากที่สุด
แอ่วเหนือคนละครึ่ง เข้าร่วมโครงการอย่างไร
วิธีการเข้าร่วมโครงการ หรือ ลงทะเบียนสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดผ่านแอปพลิเคชันเบส (Application Base) ของ ททท.เพื่อรับสิทธิได้เลยตั้งแต่บัดนี้
แอ่วเหนือคนละครึ่ง สามารถใช้จังหวัดไหนได้บ้าง
โครงการแอ่วเหนือคนละครึ่ง สามารถใช้ในพื้นที่ภาคเหนือทั้งหมด 17 จังหวัด ดังนี้
เชียงราย
น่าน
พะเยา
เชียงใหม่
แม่ฮ่องสอน
แพร่
ลำปาง
ลำพูน
ตาก
อุตรดิตถ์
พิษณุโลก
สุโขทัย
เพชรบูรณ์
พิจิตร
กำแพงเพชร
นครสวรรค์
อุทัยธานี