ฟังสองมุม ดราม่า “จิ้งจก” โผล่ในเค้กช็อกโกแลตลาวา เจ้าของร้าน เผย ยังคาใจแต่พร้อมรับผิดชอบ ด้านลูกค้าเดินทางไปแจ้งความไว้ เพื่อเป็นหลักฐานแล้ว
จากกรณีที่กลายเป็นประเด็นถกเถียงกันในโลกออนไลน์ เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพขนมเค้กที่ซื้อมารับประทานในกลุ่ม กินไร แปดริ้ว Delivery พร้อมระบุข้อความว่า “จะอ้วก แหวะมาก กินไปครึ่งอันละไม่เป็นไร พอใช้ช้อนดูคิดว่าใส่ไส้มาให้ข้างใน แต่ไปเจอแบบนี้ คืองงร้านอบเค้กไปได้ไง ราดหน้าไม่รู้เหรอว่าจิ้งจกอยู่??” ซึ่งหลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ต่างก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก โดยแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย มีทั้งฝ่ายที่เชื่อลูกค้า และฝ่ายแนะนำให้ทางร้านออกมาชี้แจง จนมีการถามหาร้านที่ทำเค้กดังกล่าว ก่อนที่ผู้โพสต์จะได้ลบโพสต์ไป ล่าสุดช่วงสายวันนี้ (28 ต.ค.67) ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจาก นางสาวอุมาพร แก้วบาง อายุ 21 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านที่ผลิตเค้กช็อกโกแลตลาวาดังกล่าว เพื่อชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยกล่าวว่า ตนขอชี้แจงว่าเค้กช็อกโกแลตลาวาที่ตนทำขายนี้ ก้อนแค่นิดเดียว ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จิ้งจกตัวใหญ่จะเข้าไปอยู่ในเค้กได้ หรือหากจิ้งจกจะตกลงไปจริง ก็น่าจะตกอยู่บนหน้าเค้ก อีกทั้งขนมของตนนั้นต้องผ่านการเข้าเตาอบที่ใช้ความร้อนสูง หากมีจิ้งจกอยู่ในชิ้นขนมจริง จิ้งจกก็น่าจะอยู่ในลักษณะที่สุก เพราะที่ในโพสต์ ก็เห็นว่าจิ้งจกยังเป็นตัวสดๆ อยู่เลย แต่อย่างไรก็ตามตนก็ยังคาใจ จึงลองเอาเนื้อไก่เข้าไปอบในเตาอบก็พบว่าเนื้อไก่สุก จากนั้นได้ติดต่อไปยังผู้โพสต์รายนี้ว่า ตนพร้อมจะรับผิดชอบ หากผู้เสียหายมีอาการป่วยจากการกินเค้กดังกล่าวไป แต่อย่างไรก็ตามตนก็มั่นใจว่า เค้กที่ตนทำกับมือไม่มีจิ้งจกตกลงไปอย่างแน่นอน ก็ไม่รู้ว่าผู้โพสต์ต้องการอะไร ทางด้านนางสาว กัญยาณี ชินต่าย อายุ 18 ปี ซึ่งเป็นผู้ใช้เฟซบุ๊กที่โพสต์ เปิดเผยว่า ตนเพิ่งจะเดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ช่วงเช้าที่ผ่านมา พร้อมยืนยันว่าตนได้สั่งซื้อเค้กช็อกโกแลตลาวา จำนวน 1 ชิ้น ราคา 40 บาท จากคนขายที่โพสต์ในกลุ่ม “กินไร แปดริ้ว Delivery” ในวันที่ 27 ตุลาคม 2567 เวลา 19.00 น. จริง จากนั้นมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งนำเค้กมาส่ง เมื่อตนกำลังกินเค้ก ก็พบว่ามีจิ้งจก 1 ตัว อยู่ในเค้ก จึงได้ส่งข้อความไปยังเฟซบุ๊กของผู้มาส่ง ซึ่งก็ได้ทำการขอโทษ และให้ผู้แจ้งส่งเลขบัญชีธนาคารมา เพื่อจะโอนเงินคืนให้ ต่อมาประมาณ 1 ชม. ทางผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวไม่ตอบ ตนจึงได้โพสต์เหตุการณ์ดังกล่าวลงในกลุ่มที่ขาย ต่อมาได้มีเจ้าของร้านได้บอกว่าจะรับผิดชอบค่าเสียหายให้ แต่ให้ตนไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ พอกลับถึงบ้าน พบว่ามีการแชร์โพสต์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก และเกรงว่าเจ้าของร้านเค้กจะไม่รับผิดชอบค่าเสียหาย จึงได้เข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน อีกทั้งตนก็ขายของออนไลน์อยู่ด้วย ลูกค้าที่สั่งของมาก็ยกเลิกหมดเลยเพราะจากผลกระทบในเรื่องนี้.