นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก “แม่ตั๊ก” แม่ค้าคนดังในโลกออนไลน์อีกแล้ว หลังเจ้าตัวกับสามีกำลังถูกวิจารณ์อย่างหนักกรณีที่หลายคนออกมาแฉว่าทองที่ซื้อไปจากทั้งสองนั้นไม่สามารถนำไปขายร้านอื่นได้ ขณะที่ร้านตัวเองก็รับซื้อคืนในราคาที่ต่ำกว่าราคาที่ขายออกไปเป็นอย่างมาก
แม่ตั๊ก หรือ ตั๊ก มีชื่อจริงว่า “กรกนก สุวรรณบุตร” เกิดและเติบโตบนเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ครอบครัวทำธธุรกิจรับซื้อของเก่า เธอเคยเล่าว่าชีวิตต้องพลิกผันเมื่อบิดาเสียชีวิตตอนเธออายุเพียง 12 ปี ส่งผลให้ฐานะทางบ้านย่ำแย่ มีหนี้สิน อยู่ในภาวะล้มละลาย ทำให้เธอต้องดิ้นรนสู้ชีวิต ตัดสินใจเข้ากรุงเทพฯ ตอนอายุ 19 ปี มาเรียนรามคำแหงคณะมนุษยศาสตร์ เอกสื่อสารมวลชนจนจบในเวลาเพียง 2 ปีครึ่ง ก่อนจะหาเงินส่งตัวเองเรียนกระทั่งจบปริญญาโท คณะรัฐประศาสนศาสตร์ เอกกฎหมายการเมือง ชื่อของเธอเริ่มเป็นที่รู้จักจากการมาเป็นแม่ค้าออนไลน์ขายครีมกันแดด โดยที่ผ่านมานอกจากจะมีการโพสต์ภาพไลฟ์สไตล์ที่หรูหราแล้ว ก็ยังมีภาพและคลิปที่เธอนำเงินไปบริจาคช่วยเหลือคนอื่นๆ กระทั่งหลายคนยกฉายาให้เธอว่าเป็นแม่ค้านักบุญสู้ชีวิต อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดกระแสดรามาเรื่องทองที่ขายร่วมกับสามี “เบียร์ กานต์พล เรืองอร่าม” ออกมา ทั้งเธอและสามีก็ต้องถูกตั้งข้อสงสัยมากมายในหลายๆ ประเด็น เช่น ช่วยเหลือคนเพื่อหวังเอากระแส หรือจะเป็นที่มาของรายได้จำนวนมหาศาลในระดับพันล้านบาท จากการตรวจสอบพบว่า ตั๊ก กรกนก มีชื่อเป็นกรรมการบริษัท 3 แห่ง คือ บริษัท เลดี้ ไทยคลับ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2558, บริษัท เลดี้ เคทูเอ็น จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2560 และบริษัท แม่ตั๊ก เลดี้ 888 จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2565 โดยบริษัทแรกเลิกกิจการไปแล้วส่วนอีก 2 บริษัทก็มีรายได้ที่ไม่ได้มากมายอะไรบางปีขาดทุนบางปีกำไรหลักหมื่น แต่ที่น่าสนใจก็คือบริษัท เคทูเอ็น โกลด์ ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับร้านทอง ซึ่งจดทะเบียนในปี 2562 กับบริษัท เลดี้คลับ ที่เพิ่งจดทะเบียนในปี 2563 ซึ่งไม่ปรากฏชื่อของเธอแต่มีชื่อของสามีนั่งเป็นกรรมการร่วมกับคนนามสกุลเดียวกัน โดยบริษัทแรกนั้นที่ผ่านมาสามารถทำรายได้รวมกว่า 1,000 ล้านบาทใน 5 ปี แต่กลับมีกำไรสุทธิเพียง 13 ล้านบาทเท่านั้น เช่นเดียวกับรายได้ของบริษัท เลดี้คลับ ซึ่งมีรายได้รวม 4 ปีที่สูงถึง 751 ล้านบาท ทั้งที่สินค้าทั้งหมดที่ขายนั้นมีไม่กี่ชนิด อีกทั้งแบรนด์ก็ไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนักและไม่ได้มีการโปรโมทหรือวางขายในช่องทางทั่วไป อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับเรื่องนี้ทางด้านของเบียร์ได้ชี้แจงว่ารายได้เกือบพันล้านไม่ได้มาจากธุรกิจขายครีมกันแดดอย่างเดียวแต่ยังมีอาหารเสริมและสินค้าตัวอื่นๆ และความสำเร็จส่วนหนึ่งมาจากชื่อเสียงและความไว้วางใจที่ลูกค้ามีต่อภรรยานั่นเอง ส่วนตั๊กเองก็ระบุว่าเหตุที่ไม่มีชื่อตนในบริษัททั้งสองก็เพราะตนจดทะเบียนสมรส ทำให้สามีต้องเป็นคนจัดการกับเอกสารทุกอย่าง ส่วนตนเองก็จะทำในส่วนของการจัดการ การตลาดตรงนั้นไป