เงินดิจิทัล 10,000 บาท กลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน เริ่มลงทะเบียน 16 ก.ย. – 15 ต.ค. 67 ผ่าน 3 ธนาคารของรัฐ ทุกสาขา ทั่วประเทศ ใช้บัตรประชาชนใบเดียว เพื่อยืนยันตัวตน
ความคืบหน้าล่าสุด โครงการดิจิทัลวอลเล็ต นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวถึง กลุ่มผู้ใช้สมาร์ทโฟนสามารถลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐถึงวันที่ 15 ก.ย. นี้ และสามารถตรวจสอบสิทธิ์ได้ในวันที่ 22 ก.ย. 67 พร้อมทั้งแย้มถึงกลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนเกี่ยวกับเงื่อนไขและช่องทางการลงทะเบียน โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
สำหรับ ผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. – 15 ต.ค. 67 โดยต้องเตรียม “บัตรประจำตัวประชาชน” มาเป็นหลักฐานยืนยันตัวตน และลงทะเบียนได้ที่สถาบันการเงินของรัฐ 3 แห่ง ได้แก่ ธนาคารออมสิน, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ทุกสาขาทั่วประเทศ รวม 2,500 สาขา
ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้นจะมีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 12 – 13 กันยายนนี้ โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จากนั้นจะมีการนำเสนอรายละเอียดโครงการของกลุ่มเปราะบาง หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และกลุ่มผู้พิการ จำนวน 14.5 ล้านคน ซึ่งนับเป็นส่วนแรกของโครงการ โดยเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 17 กันยายนนี้ เพื่อเคาะวันโอนเงินที่แน่ชัด
ปัจจุบันมีผู้ใช้สมาร์ทโฟนลงทะเบียนโครงการดิจิทัลวอลเล็ตผ่านแอปฯ ทางรัฐกว่า 32 ล้านคน ในจำนวนนี้ถูกประเมินแล้วว่าอยู่ในกลุ่มเปราะบาง ผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้พิการที่จะได้รับสิทธิในเฟสแรกจำนวน 10 ล้านคน หากมีรายชื่อผู้ใช้สิทธิ์ซ้ำซ้อนก็จะถูกตัดออกเนื่องจากได้รับเงินแล้ว
อย่างไรก็ตาม นายจุลพันธ์ มองว่า เมื่อเปิดให้กลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนลงทะเบียนในวันที่ 16 ก.ย. นี้ น่าจะมีจำนวนผู้ลงทะเบียนไม่มากนัก เพราะส่วนใหญ่น่าจะอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับกลุ่มเปราะบางแล้ว
ทั้งนี้ สำหรับกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐเรียบร้อยแล้ว ไม่ได้อยู่ในกลุ่มบัตรคนจน และกลุ่มผู้พิการนั้น หากตรวจสอบแล้วมีสิทธิ์ได้รับเงิน 10,000 บาท จะได้รับเงินสองรอบ ได้แก่ รอบแรกช่วงปลายปี 2567 เป็นเงินสดจำนวน 5,000 บาท ส่วนรอบที่ 2 จะแจกเงินอีก 5,000 บาทที่เหลือในปี 2568 หากทำระบบจ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ตเสร็จทัน จะแจกเงินส่วนที่ 2 เป็นเงินดิจิทัล แต่ในกรณีที่ไม่สามารถจัดการระบบเงินดิจิทัลทันจะเปลี่ยนมาแจกเป็นเงินสดแทน