นายกรัฐมนตรี “แพทองธาร ชินวัตร” แถลงข่าวหลังประชุมครม. นัดพิเศษ พร้อมปฏิบัติหน้าที่เต็มความสามารถ ทำงานแข่งกับเวลา ประกาศเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ ดันแก้หนี้ ช่วยเอสเอ็มอี กลุ่มเปราะบาง และแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท
วันนี้ (7 กันยายน 2567) ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวพร้อมทั้งรัฐมนตรีทั้งหมดภายใต้ “ครม.แพทองธาร” หลังจากประชุมคณะรัฐมนตรี นัดพิเศษ ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้มีพระราชดำรัสต่อนายกฯ และคณะรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ พระองค์ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งว่า ขอให้พรด้วยความยินดี ให้คณะรัฐมนตรีมีกำลังใจ มีความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้ถวายสัตย์ไปแล้ว เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและประชาชน
ทั้งนี้นับเป็นเกียรติยศและความภาคภูมิใจสูงสุดของนายกฯ และคณะรัฐมนตรี โดยนายกฯและคณะรัฐมนตรี พร้อมน้อมนำพระราชดำรัสมาปรับใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน พร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ และพร้อมที่จะทำงานเพื่อประเทศอย่างเต็มที่ และทำงานแข่งกับเวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุด
“เราคือตัวแทนของประชาชน ที่ได้รับการเลือกตั้งมาจากทั่วพื้นที่ทั่วประเทศ เรามาจากหลากหลายพรรคการเมืองจากหลาย ๆ และจะใช้ความหลากหลายนี้ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน และใช้ความหลากหลายให้เป็นจุดแข็งให้รู้ปัญหาที่แท้จริงของประชาชน และสามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด และทันเวลา” นายกฯ ยืนยัน
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า มั่นใจว่าจะประสานพลังของทุก ๆ คนให้มีพลังแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ความสามารถของตัวเองอย่างเต็มที่ และจะทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างโอกาสให้คนไทยทุกคน โดยโอกาสคือสิ่งที่เราสามารถสร้างขึ้นมาๆได้ ซึ่งรัฐบาลยืนยันว่าจะทำสิ่งนี้ให้เข้าถึงคนไทยอย่างเท่าเทียม
“วันนี้นายกฯ ครม. และข้าราชการทุกภาคส่วน พร้อมจะทำงานอย่างแน่วแน่ มั่นคง เพื่อชีวิตที่ดีกว่าของประชาชน และวันนี้พร้อมจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่าจะทำงานกันเป็นทีม และสร้างโอกาสที่เท่าเทียมกับประชาชนทุกคน โดยไม่เริ่มพรุ่งนี้ แต่จะเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้” นายกฯ ระบุ
ส่วนการประชุมครม.นัดแรก ก็ได้แจ้งให้รัฐมนตรีทุกคนทราบให้เตรียมแจกตอบคำถามการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาในประเด็นที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งช่วยกันสื่อสารนโยบายแต่ละรัฐมนตรีรับผิดชอบ เพื่อให้ข้าราชการและประชาชนเข้าใจนโยบายของรัฐบาลอย่างชัดเจนมากขึ้น
โดยส่วนใหญ่นโยบายที่จะแถลงจะเป็นนโยบายที่ทำต่อเนื่องจากรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน หลังจากรับฟังความคิดเห็นของพรรคการเมืองแต่ละพรรค และได้ปรับแก้แล้ว เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน และเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ รวมทั้งแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
“ทุกวันนี้ปัญหาของประเทศเป็นปัญหาที่เรื้อรังและท้าทาย โดยจะนำปัญหาต่าง ๆ มาแก้ไขอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งมีนโยบายทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว”
สำหรับนโยบายเร่งด่วน รัฐบาลจะเร่งการปรับโครงสร้างหนี้ ช่วยเหลือเอสเอ็มอี กระตุ้นเศรษฐกิจ และช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ส่วนระยะกลางและยาว จะต่อยอดอุตสาหกรรมเดิม เสริมสร้างการสร้างสรรค์ และซอฟต์เพาวเวอร์ โครงสร้างพื้นฐานทางสังคมและคมนาคม การเป็นศูนย์กลางทางการบิน ระบบสาธารณูปโภค และการพัฒนาคน
ส่วนในรายละเอียดอื่น ๆ ก็ขอให้ติดตามการแถลงนโยบายของรัฐบาลในวันที่ 12-13 กันยายน 2567 นี้ต่อไป
นายกฯ กล่าวว่า ยังขอให้รัฐมนตรีทุกคนดำเนินงานต่อเนื่องจากอดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน โดยเฉพาะการกระตุ้นเศรษฐกิจ ถือเป็นสิ่งที่เน้นย้ำมาตลอด ที่สำคัญคือ การส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง เพราะถ้ากระตุ้นการท่องเที่ยวได้ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระบบของประเทศไทย ขณะที่การดูแลสินค้าเกษตรก็ยังเป็นสิ่งที่รัฐบาลยังให้ความสำคัญต่อไป
รวมทั้งเน้นย้ำการแก้ปัญหาน้ำท่วม เพราะครม.เห็นตรงกันว่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทุกปี และกระทบต่อการใช้ชีวิตประชาชน จึงได้ขอให้รัฐมนตรีแก้ปัญหาได้อย่างเข้มข้นและจริงจัง อีกทั้งยังขอให้กระทรวงต่าง ๆ ดำเนินกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี
นอกจากนี้ในการขับเคลื่อน นโยบายเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet หรือ เงินดิจิทัลวอลเล็ต จะเห็นได้ทันทีในเดือนกันยายน 2567 หรือไม่นั้น นายกฯ กล่าวว่า ในเรื่องของไทม์ไลน์ ขอให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงในรายละเอียด แต่การกระตุ้นเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นแน่นอนและทันที เพราะเป็นข้อแรกที่รัฐบาลเน้นย้ำและผลักดันออกมา