จากตัวเลขสถิติเผยให้เห็นชัดว่า รถจักรยานยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุมากที่สุด เมื่อเทียบกับพาหนะประเภทอื่น โดยกรณีที่พบได้บ่อยครั้งในเมือง คือ อุบัติเหตุเกี่ยวกับรถจยย.ที่เกิดขึ้นบริเวณอุโมงค์ทางลอดและสะพานข้ามแยก แม้ว่าหลายแห่งจะมีป้ายห้ามอย่างชัดเจนแล้วก็ตาม แล้วเคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมรถจยย. ถึงห้ามใช้อุโมงค์และสะพานเหล่านี้ วันนี้เรามาไขคำตอบกัน
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) เคยอธิบายว่า การห้ามไม่ให้รถมอเตอร์ไซค์ขึ้นสะพานข้ามแยกหรือลอดอุโมงค์เป็นเหตุผลด้านความปลอดภัย เนื่องจากความเร็วของรถยนต์แตกต่างจากมอเตอร์ไซค์ หากรถยนต์เกิดอุบัติเหตุจะมีระบบป้องกันที่ดีกว่าทั้งเข็มขัดนิรภัย ถุงลมนิรภัย แตกต่างจากมอเตอร์ไซค์ที่ไม่มีอะไรป้องกันนอกจากหมวกกันน็อกใบเดียว ยิ่งถ้าสะพานความแยกหรืออุโมงค์มีระยะทางยาว การให้มอเตอร์ไซค์ใช้ช่องทางเดียวกับรถยนต์จะยิ่งเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย อีกทั้งลักษณะทางกายภาพของอุโมงค์และสะพานข้ามแยกจะไม่มีไหล่ทาง บางแห่งรถอาจวิ่งสวนกันด้วยความเร็วสูงโดยไม่มีขอบทางกั้น หากมอเตอร์ไซค์เกิดการเฉี่ยวชนหรือล้มเองก็ตาม อาจก่อให้เกิดอันตรายถึงขั้นบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิตเลยได้ อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงแต่รถจักรยานยนต์เท่านั้นที่กฎหมายห้ามไม่ให้ลอดอุโมงค์ หรือขึ้นสะพานข้ามแยก แต่ยังรวมไปถึงพาหนะขนาดเล็กที่มีความเร็วต่ำอื่น ๆ อีก ได้แก่ จักรยาน, รถสามล้อ และล้อเลื่อนลากเข็นด้วยเช่นกัน เนื่องจาก ตามมาตรา 139 (1) ในพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ข้อ 3 ซึ่งความเร็วที่แตกต่างกันมากระหว่างรถยนต์และรถขนาดเล็กเหล่านี้ อาจส่งผลให้เกิดการชะลอความเร็วอย่างกะทันหัน ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุตามมาได้ แต่ถึงอย่างนั้น สะพานบางแห่งก็มีการอนุโลมให้มอเตอร์ไซค์สามารถสัญจรได้ ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่สุดในการใช้รถยนต์และจักรยานยนต์ร่วมกันอย่างปลอดภัย คือ การออกแบบเมืองให้เหมาะสมกับพาหนะทุกรูปแบบ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ที่มีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก แต่กลับไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสมเป็นการเฉพาะสำหรับผู้ใช้มอเตอร์ไซค์ เช่น เลนเฉพาะสำหรับมอเตอร์ไซค์, ปริมาณที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ตามสถานที่ต่างๆ หรือกระทั่งสะพานและอุโมงค์ที่มีความกว้างมากพอในการใช้มอเตอร์ไซค์ควบคู่กันไป จนหลายครั้งผู้ใช้มอเตอร์ไซค์จำเป็นต้องกระทำผิดเพื่อบรรเทาปัญหาเหล่านั้นด้วยตัวเอง