ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สั่งให้ทบทวนแนวทางการใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท นำมาซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและโทรศัพท์ได้ว่า มีข้อสรุปจากคณะอนุกรรมการกำกับการดำเนินโครงการเติมเงินหนึ่งหมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต
โดยตนและนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ได้ทักท้วงประเด็นนี้ไป เพราะอยากให้เป็นสินค้าที่ผลิตในประเทศไทยเป็นหลัก แต่ยังมีข้อจำกัดในการปฏิบัติ เพราะบางร้านค้าขายของหลายประเภท จึงเป็นความกังวลของภาคการปฏิบัติจริง นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เมื่อถึงเวลาจะสอบถามแหล่งเงินจาก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธกส. จึงเชื่อมั่นว่าทันแน่นอน เพราะดูตามกรอบเวลาแล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่าหากแหล่งเงินจาก ธกส.ใช้ไม่ได้ จะมีแหล่งเงินอื่นหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้คิดประเด็นนี้ ต้องดูความเหมาะสม และดูองค์ประกอบอีกหลายอย่าง ยอมรับว่า หากใช้บัญชี ธกส. ต้องจ่ายผ่านบัญชีของเกษตรกร เรื่องนี้จึงยังมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ เมื่อถามถึงความเห็นและการสร้างความเชื่อกรณีหุ้นตก เนื่องมาจากสถานการณ์ทางการเมือง นายจุลพันธ์ ยอมรับว่า ปัจจัยหนึ่งเกิดจากการเมือง และต้องยอมรับความจริงว่าสถานการณ์การเมืองช่วงเดือนนี้ มีหลายกรณี แต่ไม่มีผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐาน สภาพตลาดยังคงความแข็งแกร่ง รวมถึงกลไกของรัฐบาลในการผลักดันทางการลงทุนในต่างประเทศ การพัฒนาคุณภาพแรงงาน ทั้งหมดจะสร้างความเชื่อมั่นในส่วนของพื้นฐานการตลาดได้ แต่อีกไม่กี่วันเรื่องราวที่เป็นข้อห่วงใยของตลาดที่เกิดความลังเลเกิดขึ้น สุดท้ายจะมีกระบวนทั้งศาลรัฐธรรมนูญ หรือ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อมีความกระจ่างชัดในทางใดทางหนึ่ง ตลาดก็จะได้รับข้อมูลเหล่านั้นไปแล้วกลับสู่ภาวะปกติ สุดท้ายคงต้องมีมาตรการออกมา แต่คงไม่ใช่มาตรการที่ออกในวันเดียว เพราะกลไกตรงนี้จะเป็นผลกระทบกับตลาดที่เกิดความสงสัยกับสถานการณ์การเมืองเพียงแค่ช่วงระยะหนึ่งเท่านั้น แนวทางการใช้สิทธิเงินดิจิทัล 10,000 บาท ของ 4 กลุ่มใหม่ ใช้จ่ายผ่านบัตรประจำตัวประชาชน (ให้สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือดีจีเอ ไปออกแบบช่วยเหลือ) แนวทางการใช้สิทธิกลุ่มคนทั่วไป ใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ รายละเอียดอื่น ยังคงเดิม สำหรับรายละเอียดอื่น ๆ ในการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ยังคงเป็นไปตามเดิม ดังนี้ การลงทะเบียนจะเริ่มต้นภายในไตรมาส 3 ของปี 2567 และจะเริ่มใช้จ่ายภายในไตรมาส 4 ของปี 2567 (เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 เป็นต้นไป) นั่นเท่ากับว่าทุกคนจะเริ่มได้ใช้เงิน 10,000 บาททันที ย้ำไม่มีเลื่อนอีกแล้ว