เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2567 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงภาพรวมการโอนเงิน 10,000 บาท ให้แก่กลุ่มเปราะบางที่ผ่านมาว่า ขณะนี้โครงการเติมเงินผ่านดิจิทัลวอลเล็ตในรอบจ่ายซ้ำ ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ที่ผ่านมา ได้โอนเงินไปแล้ว จำนวน 73,967 ราย แบ่งเป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 59,568 ราย ผู้พิการ 14,399 ราย
โดยในจำนวนดังกล่าวโอนสำเร็จไปแล้ว 30,268 ราย และโอนไม่สำเร็จอีก 43,699 ราย แบ่งเป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 39,399 ราย และผู้พิการอีก 4,300 ราย
ส่วนสาเหตุหลักของการโอนเงินไม่สำเร็จนั้น ส่วนใหญ่เกิดจาก 1.ผู้มีสิทธิยังไม่ผูกบัญชีกับระบบพร้อมเพย์ มีจำนวน 40,157 ราย 2.บัญชีธนาคารของผู้มีสิทธิ ไม่มีความเคลื่อนไหวในบัญชี จนทำให้ธนาคารปิดบัญชีไป 3.กลุ่มไม่มีบัญชีธนาคาร 4.เลขบัญชีธนาคารไม่ถูกต้อง 5.บัญชีธนาคารติดเงื่อนไขอื่น
นายจิรายุ กล่าวต่อว่า ขอฝากลูกหลานที่พอมีความรู้เรื่องการเปิดบัญชีพร้อมเพย์หรือตรวจสอบบัญชีของญาติผู้ใหญ่ และคนในครอบครัว ขอให้สอบถามคนในครอบครัวหรือญาติผู้ใหญ่ที่มีสิทธิว่าได้ดำเนินการแล้วหรือยัง ทั้งผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและผู้พิการ ขอให้ดำเนินการเร่งผูกบัญชีธนาคาร พร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน ภายในวันที่ 16 ธ.ค. 67
ส่วนผู้พิการที่บัตรประจำตัวผู้พิการหมดอายุหรือสูญหายขอให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 3 ธ.ค. 67 เพื่อให้ทันต่อรอบการจ่ายซ้ำครั้งที่ 3 ในวันที่ 19 ธ.ค. 67 ซึ่งจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว และหากพ้นกำหนดครั้งที่ 3 แล้ว ทางกรมบัญชีกลางโดยกระทรวงการคลังจะยุติการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มผู้มีสิทธิและถือว่ากลุ่มผู้มีสิทธิไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการดังกล่าว
ช่องทางการติดต่อ
ตรวจสอบสิทธิและผลการโอนเงิน: เว็บไซต์ https://โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ2567.cgd.go.th (ตรวจสอบผลการโอนเงินได้ในวันถัดไป หลังจากวันที่จ่ายเงิน)
สอบถามข้อมูลผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ : ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านระบบตอบรับอัตโนมัติ โทรศัพท์หมายเลข 0 2109 2345 กด 1 กด 5 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง
สอบถามข้อมูลคนพิการ : ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
สอบถามข้อมูลบุคคลล้มละลายหรือถูกพิทักษ์ทรัพย์ : กรมบังคับคดี โทรศัพท์หมายเลข 0 2881 4999 หรือสายด่วน 1111 กด 79