ส่องเลขเรือ ขบวนเรือแห่หลวงพ่อโสธรทางน้ำ ชาวบ้านแห่กราบไหว้ มีแค่ปีละครั้ง มีเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธาน
หลังจากมีงานใหญ่ งานนมัสการหลวงพ่อโสธรและงานประจำปี จ.ฉะเชิงเทรา ที่จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ในช่วงกลางเดือน 12 เป็นปีที่ 134 ซึ่งในปีนี้กำหนดจัดงานขึ้นเป็นเวลา 13 วัน ระหว่างวันที่ 12 พ.ย.67 – 24 พ.ย.67 สำหรับในปีนี้มีริ้วขบวนประกอบแห่องค์หลวงพ่อโสธรทางบกรวม 16 ขบวน โดยมีการกำหนดจุดการแสดงไว้รวม 3 จุด คือ ที่บริเวณด้านหน้าศาลหลักเมืองบนถนนมรุงพงษ์ บริเวณหน้า สภ.เมืองฉะเชิงเทรา บนถนนชุมพล และที่บริเวณหน้าสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ข้างหอนาฬิกาชายน้ำถนนมรุพงษ์ จึงทำให้ในช่วงเช้าระหว่างพิธีเปิดงานภายในบริเวณปะรำพิธีหน้าพระอุโบสถด้านทิศตะวันออกนั้น มีประชาชนไม่หนาแน่นมากนัก เนื่องจากได้มีการกระจายกันออกไปเฝ้ารอชมขบวนแห่และการแสดงยังในบริเวณจุดที่กำหนดไว้ ขณะที่ตามริมถนนรายทางที่ขบวนแห่หลวงพ่อโสธรเคลื่อนผ่านนั้น ได้มีประชาชนจำนวนมากโดยเฉพาะหน่วยงานจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและสถานศึกษา ซึ่งส่วนใหญ่สวมใส่เสื้อผ้าชุดไทย ได้พร้อมใจกันมาจัดตั้งโต๊ะหมู่เครื่องสูงบูชา โดยได้มีการตกแต่งประดับด้วยผ้าแพรอย่างสวยงาม โดยบางแห่งได้มีการจัดให้มีนางรำมารอรำถวายองค์หลวงพ่อโสธรขณะเคลื่อนขบวนผ่านด้วย ล่าสุดในวันที่ 14 พ.ย.67 มีพิธีเปิดขบวนเรือแห่หลวงพ่อโสธรทางน้ำ ประจำปี 2567 เพื่อให้ประชาชนได้สักการะหลวงพ่อโสธรทางน้ำ โดยเพจ วัดโสธรวรารามวรวิหาร เผยแพร่ภาพบรรยากาศพิธีเปิดขบวนเรือแห่หลวงพ่อโสธรทางน้ำ โดยมีพระเทพภาวนาวชิรคุณ วิ. เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานฝ่ายบรรพชิต น.ส.ฉัตรประอร นิยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานฝ่ายคฤหัสถ์ แต่ที่อยู่ในความสนใจของชาวบ้านอีกอย่างคือ เลขเรือขบวนเรือแห่หลวงพ่อโสธรทางน้ำ โดยปีนี้ใช้เรือ น.ปัญญารุ่งเรือง เลขเรือคือ 4660 และ 00169 ส่วนความเป็นมาของการจัดงานนมัสการหลวงพ่อโสธร และงานประจำปีของทาง จ.ฉะเชิงเทรา นั้น ได้มีการจัดขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ.2433 หลังจากมีโรคไข้ทรพิษหรือโรคฝีดาษระบาดเกิดขึ้นในพื้นที่ จนทำให้มีผู้คนล้มป่วยตายไปเป็นจำนวนมาก ก่อนที่จะมีการบนบานขอต่อองค์หลวงพ่อโสธรให้ช่วยปัดเป่าโรคร้ายให้หมดสิ้นไปจากพื้นที่ และในเวลาต่อมา โรคระบาดได้หายไปจนหมดสิ้นตามคำกล่าวที่ได้บนบานเอาไว้ จึงได้มีการจัดงานนมัสการหลวงพ่อโสธรขึ้นมาในช่วงกลางเดือน 12 มาอย่างต่อเนื่องยาวนานในทุกๆ ปี ทั้งยังมีขบวนแห่ทางบกและทางน้ำ เพื่อให้ประชาชนได้ตั้งโต๊ะเครื่องสูงและโต๊ะหมู่บูชาถวายด้วยความรำลึกถึงบุญญาภินิหารจนถึงยังหน้าบ้านเรือนชานร้านค้า เสริมความเป็นสิริมงคล ให้กิจการร้านค้าและการประกอบอาชีพสำเร็จเจริญรุ่งเรืองตลอดมาในทุกๆ ปี